อะไรทำให้เกิดแสงวาบบนดวงจันทร์

เพื่อนๆเคยมองไปบนดวงจันทร์ แล้วเห็นแสงอะไรประหลาดๆปรากฎขึ้นมาบ้างไหมคะละ บางคนอาจเคยเห็นแล้วคิดว่ามันน่าจะเป็น UFO ของมนุษย์ต่างดาว หรือบางคนอาจจะคิดว่ามันน่าจะเป็นแสงตกกระทบจากดวงอาทิตย์
.

จนมาเมื่อปีที่แล้ว เเสงนี้ปรากฎขึ้นชัดเจนอีกครั้งเมื่อเกิดเหตุการณ์จันทรุปราคา ทำเอาประชาชนโลกของเราแตกตื่นเพราะตกใจกับแสงวาบบนดวงจันทร์ที่เกิดขึ้น ซึ่งคราวนี้พวกเขาสามารถมองเห็นมันได้อย่างชัดเจน ว่าแต่ว่าแสงวาบนี้ มันเกิดขึ้นได้อย่างไร และมันจะใช่มนุษย์ต่างดาวหรือไม่ วันนี้พวกเรา eduHUB จะพาเพื่อนๆไปหาคำตอบกัน แต่ก่อนจะไปรับฟังเรื่องราวสนุกๆในวันนี้ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลัก Chatbee แอพหาคนรู้ใจใกล้คุณ โหลดเลยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป 
.

มนุษย์เราหันมาให้ความสนใจกับแสงวาบบนดวงจันทร์ เมื่อครั้งที่เกิดเหตุการณ์จันทรุปราคาจนเกิดปรากฎการณ์พระจันทร์สีเลือด ซึ่งในครั้งนั้นทุกอย่างมืดมิด ทำให้เรานั้นสามารถมองเห็นแสงวาบที่เปรียบเสมือนแสงของดวงดาวที่ระยิบระยับบนท้องฟ้า
.

แสงวาบที่เกิดขึ้นบนดวงจันทร์ที่ทำให้เกิดข้อสงสัยของใครหลายๆคนว่ามันเกิดขึ้นมาได้อย่างไรและมันคืออะไรกันแน่ มีหลายการวิเคราะห์เกิดขึ้นหลังจากเห็นแสงวาบแบบนี้ และก็มีหลายคนบอกว่าเหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้วบนดวงจันทร์ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่มันเกิดขึ้นชัดเจนที่สุด อาจเป็นเพราะตอนที่เกิดจันทรุปราคาทุกอย่างบนดวงจันทร์มันอาจจะดูมืดมิดก็ได้
.

แสงวาบที่ได้กล่าวมานี้บางคนแอบคิดว่ามันเป็นแสงสะท้อนของแหล่งที่อยู่ หรือการมีชีวิตอยู่ของสิ่งมีชีวิตต่างดาวหรือเปล่า บ้างก็ว่าหรือมันจะเป็นเศษวัตถุทางอากาศที่มนุษย์สร้างขึ้นแล้วสะท้อนกับดวงอาทิตย์จนเกิดประกายแสงขึ้นมา หรือบางคนก็คิดว่ามันอาจจะเป็นแสงจากการระเบิดของอุกกาบาตที่พุ่งเข้าชนดวงจันทร์ก็ได้ หลากหลายสาเหตุที่หลายๆคนคาดเดากันเข้ามา ทำให้วันนี้เราได้ศึกษาและเจอคำตอบแล้วว่าแสงวาบบนดวงจันทร์นั้นมันคืออะไรกันแน่
.

ย้อนกลับไปเมื่อสมัยก่อร่างสร้างดวงจันทร์ขึ้นมานั้น ดวงจันทร์มีรูปร่างทรงกลมพื้นผิวเรียบเหมือนกับดาวดวงอื่นๆ เเต่เนื่องจากดวงจันทร์อยู่ในตำแหน่งเเละวิถีที่มักจะโดนเศษเสี้ยวจากดาวเคราะห์น้อยหรืออุกกาบาตตกลงมาใส่อยู่เป็นประจำ ทำให้พื้นผิวของมันเป็นหลุม เป็นบ่อ ขรุขระจนสามารถมองเห็นได้จากพื้นโลก
.

ซึ่งในการพุ่งชนแต่ละครั้งนั้นก็จะมีความรุนแรงมากน้อยสลับกันไป แต่ส่วนใหญ่แล้วนั้น มันจะเกิดการระเบิดที่บริเวณที่พุ่งชน จนทำให้เกิดแสงวาบขึ้นมา ซึ่งมองจากบนโลกก็พอจะมองเห็นแสงวาบนั้นอยู่ ซึ่งเหตุการณ์นี้เองนั้นเรียกว่า Transient lunar phenomenon
.

แต่ถ้าใครหวังจะอยากมองเห็นแสงวาบบนดวงจันทร์แล้วนั้น ต้องขอบอกเลยว่าต้องจ้องให้ดีๆอย่ากระพริบตา เพราะการเกิดเเสงวาบจากการพุ่งชนของอุกกาบาตนั้นเกิดขึ้นภายในระยะเวลาไม่กี่นาที เพียงเเค่เรากระพริบตาหรือละสายตาไปทางอื่นก็อาจจะพลาดการพบแสงวาบบนดวงจันทร์ไปก็ได้
.

จากการบันทึกผลของนักดาราศาสตร์พบว่าแสงวาบที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่มันเกิดขึ้นมานานมากแล้ว ซึ่งในสมัยก่อนนั้นที่เทคโนโลยีของกล้องโทรทรรศน์ยังไม่สูงพอที่จะจับภาพพวกนี้ได้ เลยทำให้นักดาราศาสตร์ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนของการเกิดแสงวาบนี้ขึ้น แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันจึงทำให้สามารถวิเคราะห์ออกมาได้ว่าแสงวาบเหล่านี้จะเกิดขึ้นเวลาเดียวกับที่วัตถุหรืออุกกาบาตพุ่งเข้าชนลงบนพื้นผิวของดวงจันทร์ 
.

อีซา หรือองค์การอวกาศยุโรปได้ริเริ่มโครงการที่มีชื่อว่า นีลีโอตา ที่ย่อมาจาก NEO Lunar Impacts and Optical Transients ซึ่งมีเป้าหมายในการสังเกตการณ์ในการเกิดแสงวาบบนดวงจันทร์ เพราะการที่อุกกาบาตมาชนดวงจันทร์จนเกิดแสงวาบนั้นอาจส่งผลกระทบต่อโลก เนื่องจากอุกกาบาตชิ้นนั้นถือว่าเป็นวัตุที่เข้ามาใกล้โลก หากวันใดวันหนึ่งมันเปลี่ยนวิถีการพุ่งชน หรือโลกโคจรไปอยู่ในบริเวณที่จะโดนพุ่งชน ก็จะทำให้โลกเกิดอันตรายขึ้นมาได้
.

ภายใต้โครงการ นีลีโอตา นั้น จะใช้กล้องโทรทรรศน์ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.2 เมตร ที่มีฐานที่ตั้งในประเทศกรีซ ซึ่งได้เริ่มสังเกตปรากฎการณ์บนดวงจันทร์มาตั้งแต่ปี 2550 แล้ว โดยจะเน้นส่องไปดูแสงวาบบนดวงจันทร์ในฝั่งที่มืดและโดนแสงอาทิตย์น้อยที่สุด เพื่อให้ง่ายต่อการสังเกต
.

ตลอดระยะเวลาการเก็บข้อมูลของโครงการนี้นั้นได้พบว่า ตั้งแต่ปี 2550 – 2563 มีการเฝ้าสังเกตดวงจันทร์นานถึง 149 ชั่วโมง ซึ่งพบแสงวาบจำนวน 102 ครั้ง จากการคำนวนเชิงสถิติแล้วนั้นจะพบว่าดวงจันทร์เกิดแสงวาบเฉลี่ยชั่วโมงละ 8 ครั้ง
.

นั่นก็หมายความว่าดวงจันทร์นั้นน่าจะโดนพุ่งชนจากอุกกาบาตเกือบๆตลอดเวลา และแสงวาบที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากการชนของอุกกาบาตจนเกิดแรงระเบิดที่มีความร้อนถึง 1,300 -2,800 องศาเซลเซียส อย่างไรก็ตามโครงการนีลีโอตานั้นยังคงดำเนินการสำรวจต่อไปในปีหน้า เพื่อเก็บข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาวิเคราะห์ให้มั่นใจและแน่ใจอีกที
.

แล้วเราก็ได้คำตอบแล้วนะคะเพื่อนๆว่าแสงวาบบนดวงจันทร์นั้นไม่ใช่แสงจากมนุษย์ต่างดาวแต่อย่างใด แต่มันเกิดจากการพุ่งชนของอุกกาบาต ซึ่งถ้าคิดคำนวนจากผลการสำรวจออกมาแล้วพบว่าการพุ่งเข้าชนนั้นถี่มากๆ ดังนั้นเป็นงานของหน่วยงานที่ปกป้องโลกจากภัยจากนอกโลกต้องมาหาวิธีป้องกัน เพราะว่าโลกอาจโดยลูกหลงจากการพุ่งชนของอุกาบาตก็เป็นไปได้ 
.

สำหรับวันนี้ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลัก Chatbee แอพหาคนรู้ใจใกล้คุณ โหลดเลยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป