5 ตำนานสถานที่ลึกลับในไทย

ประเทศไทยเราเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน เรามีอารยธรรมเก่าแก่โบราณ ประเพณี วิถีชีวิตที่สืบเนื่องกันมาตั้งครั้นอดีต ซึ่งหลายสิ่งหลายอย่างที่เคยเกิดขึ้นในสมัยก่อนก็ยังคงเป็นเรื่องเล่าขาน เป็นตำนานลึกลับสืบมาจนถึงทุกวันนี้ และวันนี้เราก็จะพาไปดู 5 ตำนานสถานที่ลึกลับในไทยกันค่ะ

1.พระพุทธรูปพูดได้ วัดศรีชุม จังหวัดสุโขทัย

โบราณสถานที่มีอายุยาวนานนี้ตั้งอยู่ในเจตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และพระพุทธรูปพูดได้ที่ว่านี้ก็หมายถึงองค์พระพุทธรูปอยู่ในมณฑปชื่อว่า “พระพุทธอจนะ” โดยพระพุทธรูปองค์นี้เป็นที่เลื่องลือในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีความสวยงามวิจิต เหมาะกับเป็นสถานที่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมและสักการะอย่างยิ่ง

ตำนานของวัดศรีชุม :

เรื่องราวของตำนานนี้กล่าวว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้แวะมาสักการะที่วัดศรีชุมนี้ระหว่างที่ทรงยกทัพไปปราบกบฏที่เมืองสวรรคโลก และเนื่องจากต้องรบกับคนไทยด้วยกันทำให้เหล่าทหารไพร่พลขาดกำลังใจในการทำศึก พระนเรศวรจึงได้วางแผนให้นายทหารคนหนึ่งไปแอบอยู่ด้านหลังพระพุทธรูปและพูดให้กำลังใจทหารไพร่พล ทำให้ในที่สุดเหล่าทหารก็มีกำลังใจหึกเหิมขึ้นมาอีกครั้ง และกลายเป็นตำนานของพระพุทธรูปพูดได้ขึ้นมา

วัดศรีชุม
ภาพพระพุทธรูปพูดได้ วัดศรีชุม – ขอขอบคุณภาพจากคุณเจริญ ภัทรพิทักษ์

2. ผีจ้างหนัง ตำนานพญานาค คำชะโนด จังหวัดอุดรธานี

วัดนาคินทร์คำชะโนดเป็นสถาที่ที่ชาวบ้านต่างให้ความนับถือและแวะเวียนมาเคารพบูชากันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งในวัดนี้ก็มีป่าอยู่ ลักษณะของป่าแห่งนี้เป็นเกาะป่า หรือก็คือป่าที่มีน้ำล้อมรอบ ป่าแห่งนี้มีพื้นที่โดยรวมแล้วประมาณ 20 ไร่ และเต็มไปด้วยต้นคำชะโนดสูงลิ่ว และในป่าคำชะโนดนั้นก็มีศาลเจ้าอยู่แห่งหนึ่งชื่อศาลเจ้าปู่ศรีสุทโธ อีกฝั่งหนึ่งก็มีต้นไทรต้นใหญ่ที่เป็นที่กราบไหว้ของชาวบ้านโดยทั่ว

ตำนานของคำชะโนด :

ชาวบ้านในบริเวณนี้ต่างเชื่อกันว่าป่าคำชะโนดเป็นที่อยู่ของพญานาค ในป่ามีทางเชื่อมลงไปสู่เมืองบาดาล และผู้ปกครองดินแดนแห่งนี้ก็คือพญานาคราชปู่ศรีสุทโธและองค์แม่ศรีปทุมมานาคราชเทวี แต่เนื่องจากพญานาคราชปู่ศรีสุทโธเกิดผิดใจกับเจ้าพ่อสุวรรณนาคขึ้นด้วยสาเหตุบางประการ ทำให้ทั้งสองเริ่มทำสงครามกัน สงครามในครั้งนั้นรุนแรงจนสั่นสะเทือนไปยังพื้นโลก เดือดร้อนไปจนถึงพระอินทร์ต้องลงมาหยุดสงครามครั้งนี้ โดยพระอินทร์ได้ให้ทั้งสองฝ่ายเปลี่ยนมาสร้างแม่น้ำแทน ฝ่ายที่สร้างเสร็จก่อนจะได้ปลาบึกลงไปอาศัยอยู่ในแม่น้ำสายนั้น ซึ่งแม่น้ำทั้งสองสายที่สร้างแข่งกันนี้ก็คือแม่น้ำโขงและแม่น้ำน่านนั่นเอง

ผลการแข่งขันครั้งนั้นปรากฏว่าพญานาคราชปู่ศรีสุทโธสร้างแม่น้ำเสร็จได้ก่อน นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมถึงมีปลาบึกอยู่ในแม่น้ำโขง และเพื่อให้พญานาคราชปู่ศรีสุทโธได้มาดูแลแม่น้ำโขงแห่งนี้ จึงได้ขอพระอินทร์ให้ทำทางเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และเมืองบาดาลไว้ 3 แห่ง นั่นคือที่ธาตุหลวงนครเวียงจันทน์ ที่หนองคันแท และที่พรหมประกายโลกหรือก็คือที่คำชะโนดนั่นเอง

และนอกจากตำนานพญานาคแล้ว ที่แห่งนี้ยังมีตำนานอยู่อีกหนึ่งเรื่องนั่นคือเรื่องผีจ้างหนังที่เคยถูกนำไปดัดแปลงเป็นบทภาพยนต์มาแล้ว โดยตำนานกล่าวไว้ว่าบริษัททำหนังกลางแปลงแห่งหนึ่งถูกว่าจ้างให้ไปฉายหนังที่ทุ่งคำชะโนดโดยยุคคลลึกลับ การว่าจ้างครั้งนี้มีค่าจ้างให้ถึง 4,000 บาท แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องฉายหนังให้จบก่อนช่วงเวลาตี 4 และทีมงานทุกคนต้องออกมาจากสถานที่ในบริเวณนั้นก่อนรุ่งสาง และห้ามหันไปมองข้างหลังโดยเด็ดขาด

ขอขอบคุณภาพประกอบจากเว็บไซต์ fiksyenshasha.com

3. ตำนานความรัก ถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย

สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยนางนอน จังหวัดเชียงราย ถ้ำแห่งนี้ถือว่าเป็นถ้ำที่ยาวที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทยเลยทีเดียว โดยสภาพในถ้ำนี้เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ โดยทั่วไปแล้วถ้ำแห่งนี้จะมีน้ำซึมตลอดทั้งปี แต่ในช่วงฤดูฝนจะมีน้ำไหล จนเคยเกิดเหตุทีมหมู่ป่าอะคาเดมี่ติดอยู่ในถ้ำแห่งนี้ในวันที่ 23 มิถุนายน 2562 แต่ในที่สุดทีมช่วยเหลือทั้งในไทยและต่างประเทศก็สามารถช่วยเหลือและนำตัวเด็กทั้งสิบสามคนรวมถึงครูของเด็กออกมาได้อย่างปลอดภัย

ตำนานของถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน :

ตำนานนี้เริ่มขึ้นจากการที่เจ้าหญิงแห่งเมืองเชียงรุ้ง สิบสองปันนา ได้ไปหลงรักกับชายเลี้ยงม้าในวังคนหนึ่ง ภายหลังเจ้าหญิงได้เริ่งทรงครรภ์ ทั้งสองจึงจำเป็นต้องหนีตามกันออกมา จนกระทั่งในที่สุดทั้งสองก็เดินทางไปถึงที่ราบใกล้แม่น้ำโขง แต่เนื่องจากเจ้าหญิงทรงครรภ์ได้หลายเดือนแล้วจึงไม่สามารถเดินทางต่อไปได้อีก ชายหนุ่มได้ยินดังนั้นจึงบอกว่าจะออกไปหาอาหารให้ แต่หลังจากนั้นชายหนุ่มก็หายตัวไปและไม่เคยกลับมาอีกเลย

เจ้าหญิงที่โดนทิ้งให้อยู่ตามลำพังและไม่สามารถหนีไปไหนได้ สุดท้ายก็ถูกจับโดยทหารของพระราชบิดา ทำให้ต่อมาเจ้าหญิงได้รู้ว่าคนรักของเธอไม่ได้ทอดทิ้งเธอไปได้ แต่ระหว่างทางที่ออกไปหาอาหาร เขาก็โดนทหารของพระราชบิดาฆ่าตาย เจ้าหญิงโศกเศร้าเสียใจอย่างมากจนกระทั่งเธอได้ปลิดพระชนชีพของตนเองด้วยการแทงปิ่นเข้าไปที่พระเศียร เลือดที่ไหลออกมาเป็นสายนั้นกลายเป็นแม่น้ำแม่สายที่เราเห็นอยู่ทุกวันนี้ และร่างที่นอนเหยียดยาวของพระนางก็กลายเป็นดอยนางนอน ส่วนท้องที่นูนขึ้นมาเพราะพระครรภ์ก็กลายเป็นดอยตุงนั่นเอง

ภาพถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน – ขอขอบคุณภาพจากเว็บไซต์ news.kapook.com

4. ตำนานยักษ์วัดแจ้ง และยักษ์วัดโพธิ์ วัดโพธิ์ ท่าเตียน กรุงเทพฯ

ไม่ว่าใครก็คงเคยได้ยินชื่อวันนี้กันมาบ้างแล้ว วัดนี้เป็นวัดที่มีความสำคัญและมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในกรุงเทพ เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยา อีกทั้งยังเป็นวัดประจำร.1อีกด้วย

ตำนานยักษ์วัดแจ้ง และยักษ์วัดโพธิ์ :

ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อนานมาแล้วยักษ์วัดโพธิ์กับยักษ์วัดแจ้งเป็นเพื่อนกัน แต่วันหนึ่งยักษ์วัดโพธิ์เกิดมีปัญหา ไม่มีเงินใช้ ยักษ์วัดโพธิ์จึงได้ข้ามแม่น้ำไปเพื่อไปยืมเงินยักษ์วัดแจ้งที่เป็นเพื่อนรัก ด้วยความเป็นเพื่อนยักษ์วัดแจ้งก็ให้ยืมแต่โดยดี แต่หลังจากนั้นยักษ์วัดโพธิ์กลับไม่คืนเงินจนยักษ์วัดแจ้งต้องข้ามแม่น้ำมาทวง ทั้งสองทะเลาะกัน ด้วยรูปร่างที่ใหญ่โตของทั้งสองทำให้พื้นที่ในบริเวณนั้นพังราบ เกิดเป็นลานโล่งขึ้น การทะเลาะกันครั้งนี้สร้างความเดือดร้อนให้กับสัตว์ป่าและมนุษย์มากมายจนดังขึ้นไปถึงหูของพระอิศวร พระอิศวรจึงต้องลงมาห้าม และสาปยักษ์ทั้งสองให้กลายเป็นรูปปั้นหินเฝ้าหน้าพระอุโบสถแทนการลงโทษมาจนถึงทุกวันนี้

ยักษ์วัดแจ้ง ยักษ์วัดโพธิ์
ภาพยักษ์วัดแจ้ง ยักษ์วัดโพธิ์ – ขอขอบคุณภาพจาก Dayoff

5. ตำนานเขาสามมุข ศาลเจ้าแม่สามมุข ชลบุรี

สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่โบราณซึ่งมีอายุมาแล้วกว่า 103 ปี ผู้ที่มาสักการะส่วนใหญ่เป็นแม่ค้าและชาวประมง โดยจะต้องมากราบไหว้และถวายของเซ่นเป็นมะพร้าวอ่อนและผลไม้ก่อนจะออกทะเล นอกจากนี้บริเวณศาลเจ้ายังมีลิงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านเชื่อกันว่าลิงเหล่านั้นเป็นบริวารของเจ้าแม่สามมุก ดังนั้นห้ามใครจับหรือทำร้ายลิงเหล่านี้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นผู้นั้นจะต้องมีอันเป็นไป โดยอาจจะล้มป่วยหรือเดือดร้อนไปถึงญาติพี่น้องและคนในครอบครัว

ตำนานเขาสามมุข :

ตำนานเรื่องนี้เกิดขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย โดยมีหญิงสาวกำพร้าคนหนึ่งในบางปลาสร้อยชื่อ “สามมุก” เธออาศัยอยู่กับยายที่กล่อมเชิงเขา ภายหลังเธอได้ไปตกหลุมรักกับลูกชายของกำนันบ่ายซึ่งเป็นเศรษฐีแห่งบ้านหิน หรืออ่างศิลา ชายหนุ่มคนนั้นมีชื่อว่าแสนและเขาเองก็มีใจให้เธอเช่นกัน ทั้งสองสาบานต่อขุนเขาว่าจะรักกันไปตราบชั่วนิรันดร์ หากใครผิดคำสาบานจะต้องมากระโดดหน้าผาแห่งนี้ตายตามกันไป

หลังจากนั้นแสนก็ได้ให้แหวนกับสามมุขเพื่อเป็นเครื่องยืนยันความรัก ทว่าเมื่อกำนันบ่ายรู้เรื่องนี้เข้าก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะสามมุขเป็นเพียงหญิงยากจน ไม่มีทั้งทรัพย์สินและอำนาจวาสนา กำนันบ่ายจึงกีดกันไม่ให้ทั้งสองได้เจอกันโดยการกักขังแสน ลูกชายของตนเองเอาไว้ และบังคับให้แต่งงานกับหญิงสาวอีกคนซึ่งเป็นลูกสาวของคนทำโป๊ะ ข่าวการแต่งงานนี้เลื่องลือไปถึงหูของสามมุก เธอเดินทางมายังงานและได้รดน้ำสังข์ให้กับแสนด้วย

ระหว่างที่รดน้ำอยู่นั้น แหวนวงหนึ่งก็ตกลงมาในมือของแสน มันเป็นแหวนที่แสนเคยให้สามมุกไว้เพื่อเป็นหลักฐานความรัก เมื่อได้คืนแหวนเสร็จ สามมุกก็วิ่งหนีออกไปจากที่จัดงานในทันที เธอวิ่งไปยังหน้าผาและปลิดชีพตนเองด้วยการกระโดดลงมาเพื่อบูชาความรักในครั้งนี้ แสนรู้สึกเสียใจอย่างมาก เขาจึงตามไปกระโดดหน้าผา ฆ่าตัวตายตาม ชาวบ้านที่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นก็โกรธแค้นกำนันบ่ายมากที่ทำให้เกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้นมาเช่นนี้ กำนันบ่ายจึงได้นำถ้วยชาม สิ่งของต่างๆ มาไว้ที่ถ้ำตรงหน้าผาเพื่อขอขมาในสิ่งที่ทำลงไป ภายหลังจึงได้ตั้งชื่อภูเขาลูกนี้ว่า “เขาสามมุก” และชายหาดที่ติดกันว่า “หาดบางแสน” เพื่อให้ทั้งสองคนได้อยู่คู่กันและครองรักกันตลอดไป

เขาสามมุข
ภาพ เขาสามมุข ศาลเจ้าแม่สามมุข ขอขอบคุณภาพจากเว็บไซต์ tnews.co.th

เป็นยังไงกันมั่งละคะเพื่อนๆ กับ 5 ตำนานสถานที่ลึกลับในบ้านเรา ทุกที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม เพื่อนๆคนไหน ไปเที่ยวมาแล้วก็มาแชร์ประสบการณ์กับพวกเราได้นะคะ และถ้าใครชอบบทความสาระดีดีอย่างนี้ ก็อย่าลืมกดติดตามและกดกระดิ่งช่อง eduHUB กันด้วยนะคะ