ดาวผีดูดเลือด กลืนกินดาวเคราะห์

เมื่อสองปีที่แล้ว นักดาราศาสตร์ได้สำรวจจักรวาลและพบว่าในระยะทางที่ห่างจากโลกไม่กี่พันปีแสง มีมวลพลังงานแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นระหว่างดวงดาวสองดวง ซึ่งพลังงานที่แปลกประหลาดนั้นทำให้ดาวสองดวงมีวงโคจรที่ผิดเพี้ยนไป ราวกับว่ามันถูกดูดกลืนพลังงานจนเสียสมดุล แต่แล้วความจริงก็ปรากฏ เนื่องจากเทคโนโลยีกล้องโทรทรรศน์ในปี ค.ศ. 2022 ที่มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น จนทำให้โลกเราสามารถตรวจสอบความเป็นไปในดวงดาวนั้นได้อีกครั้ง

.

และกลับพบว่า มันไม่ได้มีพลังงานลึกลับแต่อย่างใด แต่หนึ่งในดาวสองดวงนั้นกำลังจะกลืนกินดาวอีกดวงที่เป็นดาวเคราะห์ ราวกับว่ามันคือผีดูดเลือด เรื่องราวการค้นพบนี้จะเป็นอย่างไร วันนี้พวกเราชาว eduHUB จะพาเพื่อน ๆ ไปรับชมกัน แต่ก่อนจะไปรับฟังเรื่องราวสนุก ๆ ในวันนี้ ขอขอบคุณผู้สนับสนุนใจดี BEEclean แอปเรียกแม่บ้านสำหรับคุณ

.

ย้อนเรื่องราวกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 2020 ทีมนักดาราศาสตร์ได้ค้นพบปรากฎการณ์ประหลาดจากการเฝ้าสังเกตบนหอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์ของยุโรปตอนใต้ พวกเขาได้ค้นพบปรากฎการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นอยู่ในบริเวณระบบดาว HR 6819 ที่มีระยะทางห่างจากโลกราว 1,120 ปีแสง โดย HR 6819 นั้นเป็นระบบดาวคู่ที่มีดาวอยู่แค่ 2 ดวง มีพลังงานดึงดูดซึ่งกันและกันและโคจรรอบกันและกัน ในดาว 2 ดวงนี้แบ่งเป็นดาวฤกษ์ที่มีขนาดใหญ่และดาวเคราะห์ที่มีขนาดเล็ก ระบบดาวคู่ HR 6819 ได้ถูกค้นพบมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980  ซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์ปกติ ทั้งสองก็จะโคจรรอบกันแบบสมดุลและเสถียร

.

จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2020 เองนั้น ได้มีการตีพิมพ์ลงในวารสาร Astronomy & Astrophysics ที่เปิดเผยผลการสำรวจระบบดาวคู่นี้ว่า ได้มีวัตถุอวกาศเดินทางโคจรได้รวดเร็วอย่างน่าประหลาดและผิดแปลกไปจากเดิม โดยอยู่ภายในระบบดาวคู่  HR 6819  ลักษณะที่เขาสังเกตได้ก็คือ ดาวดวงเล็กได้เข้าใกล้ชิดดาวฤกษ์ ซึ่งโดยปกติแล้วหากดาวเคราะห์เข้าใกล้ดาวฤกษ์ ก็จะถูกรับพลังงานจากแรงดึงดูดทำให้ดาวทั้งคู่มีวงโคจรที่แกว่งมากขึ้น

.

แต่จากการสำรวจพบว่า ยิ่งเข้าใกล้ยิ่งไม่เกิดการแกว่งมากเท่าที่มันนั้นควรจะเป็น แถมยังสามารถโคจรวนรอบ BE Star ในระยะเวลา 40 วัน ซึ่งจากเหตุการณ์นี้เองนั้น ทำให้นักดาราศาสตร์จึงได้ตั้งข้อสงสัยเอาไว้ว่า น่าจะมีพลังงานที่ยิ่งใหญ่มารบกวนแรงโน้มถ่วง ซึ่งพวกเขาคิดกันว่าน่าจะเป็นหลุมดำ ซึ่งหลุมดำนั้นเป็นแหล่งพลังงานขนาดใหญ่ที่เกิดจากการดับสลายของดาวฤกษ์ขนาดมหึมา ทำให้มีแรงโน้มถ่วงที่สูงจนสามารถดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่างไม่เว้นแม้กระทั่งแสง ทำให้ในบริเวณหลุมดำนี้เราจะเห็นเป็นจุดดำ ๆ เนื่องจากบริเวณนั้นแสงได้ถูกดูดกลืนเข้าไป

.

ด้วยความที่หลุมดำมีพลังงานที่สูง ดังนั้นเมื่อมันเข้าใกล้ระบบดาวหรือวัตถุอวกาศใดใดก็แล้วแต่ จะส่งผลให้การโคจรหรือแรงโน้มถ่วง รวมไปถึงพลังงานต่าง ๆ ในบริเวณนั้นเกิดความแปรปรวน นั่นเองจึงอาจเป็นที่มาของความผิดปกติในระบบดาว HR 6819 และในตอนนั้นเองที่นักดาราศาสตร์ได้ตั้งข้อสันนิษฐานเอาไว้ว่า อาจจะมีหลุมดำอยู่ใกล้บริเวณระบบดาว HR 6819 และทำให้โลกเริ่มตื่นเต้นอีกครั้ง เพราะนี่จะถือว่าหลุมดำอันนี้เป็นหลุมดำที่อยู่ใกล้โลกมากที่สุด ซึ่งนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2020 มา เราก็ได้จดจำมาโดยตลอดว่าหลุมดำที่ใกล้โลกที่สุดคือหลุมดำที่อยู่บริเวณระบบดาว HR 6819 ซึ่งห่างจากโลกเพียง 1,120 ปีแสง

.

แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไป 2 ปี เทคโนโลยีด้านอวกาศได้ถูกพัฒนามากขึ้นทำให้กล้องโทรทรรศน์มีประสิทธิภาพและมองเห็นจักรวาลได้ชัดขึ้น ในปี ค.ศ. 2022 จึงได้มีนักดาราศาสตร์ได้ทำการสำรวจระบบดาว HR 6819 อีกครั้ง เพื่อหาความชัดเจนเกี่ยวกับพลังงานหลุมดำที่ทำให้ดาวทั้งสองดวงในระบบขาดสมดุลในการโคจร ในครั้งนี้นักดาราศาสตร์ได้ใช้กล้องโทรทรรศน์ VLT และ VLTI พวกเขาได้วัดระยะห่างของดาวทั้งสองดวงนี้และพบว่า มันมีความห่างกันเพียงแค่ 1 มิลลิพิลิปดา

.

ใกล้ขนาดที่ว่าดาวฤกษ์ดวงใหญ่นี้กำลังดูดชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์ดวงเล็ก จนทำให้ดาวดวงเล็กสูญเสียชั้นบรรยากาศและกำลังจะทำให้ดาวดวงนั้นดับสลายลง คล้ายกับการดูดเลือดของผีดิบที่ดูดกินพลังชีวิตของมนุษย์จนหมด จนคน ๆ นั้นกลายเป็นร่างที่ไร้วิญญาณ นักดาราศาสตร์ได้ระบุว่า นี่เป็นพฤติกรรมของดาวฤกษ์แวมไพร์ ซึ่งยังพบไม่มากในปัจจุบัน และการดูดกลืนชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์ดวงเล็กนี้ยังเป็นสาเหตุของการที่ดาวทั้งสองเสียสมดุลในการโคจร ไม่ใช่เพราะหลุมดำอย่างที่เคยตั้งข้อสันนิษฐานไว้เมื่อ 2 ปีก่อน โดยในอนาคต กลุ่มดาว HR 6819 อาจเหลือดวงดาวเพียงแค่ดวงเดียว เพราะเกิดการรวมตัวของดาวให้เป็นขนาดที่ใหญ่ขึ้น หรืออาจจะเกิดการระเบิดซุปเปอร์โนวา จนก่อให้เกิดหลุมดำจริง ๆ ก็ได้

.

สำหรับเรื่องราวสนุก ๆ ในวันนี้ก็มีเพียงเท่านี้ แต่ก่อนจะจากกันไปในวันนี้หากคุณกำลังมองหาแม่บ้านทำความสะอาดอยู่ใช่ไหม ถ้าใช่ ต้องนี่เลย BEEclean แอปเรียกแม่บ้านสำหรับคุณ