สำรวจ “มาเรียน่า เทรนช์” ร่องมหาสมุทรที่ลึกที่สุดในโลก

ที่ผ่านมา เราออกไปสำรวจดวงดาวต่างๆ กันมาก็มาก ทั้งดวงจันทร์ ดาวอังคาร หรือแม้แต่ดาวที่ไกลที่สุดในระบบสุริยะอย่างดาวเนปจูน แต่เมื่อตัดกลับมายังโลกสีฟ้าของเรา เราเองก็ยังไม่เคยสำรวจดาวเคราะห์สีฟ้าดวงนี้แบบละเอียดทุกซอกทุกมุมเลย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือบริเวณใต้ท้องทะเลลึกนั่นเอง! 
.

ซึ่งจุดหนึ่งในมหาสมุทรที่ลึกที่สุดของโลกก็คือที่มาเรียน่า เทรนช์ (Mariana Trench) ร่องมหาสมุทรลึกที่เกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ทำให้เกิดเป็นรอยแยกรูปจันทร์เสี้ยวขึ้น โดยรอยแยกนี้ตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันจากประเทศฟิลิปปินส์ประมาณ 200 กม. ถูกค้นพบในช่วงปี 1872-1876 โดยเรือเฮชเอ็มเอส ชาเลนเจอร์ (H.M.S. Challenger) เรือลาดตระเวนระดับราชนาวีจากสหราชอาณาจักร ส่วนชื่อมาเรียน่า เทรนช์ ก็ตั้งชื่อตามราชินีมารีอา อันนาแห่งออสเตรีย (Mariana of Austria) ผู้อภิเษกสมรสกับพระเจ้าเฟลิเปที่ 4 แห่งสเปน
.

ในสมัยนั้นได้มีการวัดความลึกของมาเรียน่า เทรนช์ด้วยการใช้เชือกผูกตุ้มน้ำหนักย่อนลงไป ซึ่งผลที่ได้ออกมาว่าร่องลึกนี้น่าจะมีความลึกอยู่ที่ประมาณ 8 กม. ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป เทคโนโลยีเริ่มก้าวหน้าขึ้น ทำให้ในปี 1951 เรือเฮชเอ็มเอส ชาเลนเจอร์สอง (H.M.S. Challenger II) ได้เดินทางกลับมาวัดความลึกของเหวนี้อีกรอบด้วยอุปกรณ์วัดเสียงสะท้อน (Echo sounder) ซึ่งในตอนนั้นวัดความลึกได้ 11 กม. 
.

โดยบริเวณดังกล่าวก็ถูกตั้งชื่อว่า “แชลเลนเจอร์ดีป” (Challenger Deep) หรือที่แปลว่า “ระดับความลึกสุดท้าทาย” นั่นเอง ซึ่งจุดที่ลึกที่สุดนี้ก็ท้าทายความสามารถของมนุษย์มากจริงๆ เพราะที่ผ่านก็เคยมีคนลงไปสำรวจบริเวณดังกล่าวเพียงแค่ 3 คนเท่านั้น 
.

2 ใน 3 คนนั้นคือ นักสมุทรศาสตร์และวิศวกรชาวสวิสชื่อฌาคส์ พิคคาร์ด (Jacques Piccard) กับนักมหาสมุทรศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญทางทะเลชาวอเมริกัน ดอน วาลช์ (Don Walsh) โดยทั้งสองนั่งเรือดำน้ำขนาดเล็กชื่อตรีเอสเต (Trieste) ลงไปถึง 5 ชั่วโมงกว่าจะถึงก้นสมุทร ซึ่งพวกเขาได้บรรยายถึงสภาพแวดล้อมที่เห็นว่า พื้นเหมือนเป็นหินบดละเอียด แต่ตอนลงจอดไม่มีฝุ่นฟุ้งกระจายขึ้นมา มีปลาและกุ้งรูปร่างประหลาดอยู่จำนวนหนึ่ง 
.

แต่ก่อนที่ทั้งสองจะหันได้เห็นอะไรมากกว่านี้ กระจกหน้าต่างของเรือก็เริ่มเกิดรอยรั่วที่ทำให้ทั้งสองต้องรีบปลดตุ้มถ่วงและกลับขึ้นมาเหนือน้ำโดยเร็วที่สุด ทำให้ทั้งสองคนได้ใช้เวลาใต้ก้นมหาสมุทรเพียงแค่ 20 นาทีเท่านั้น ซึ่งทั้งสองใช้เวลาเดินทางกลับขึ้นมาเพียงแค่ 3 ชั่วโมง 15 นาที ทำให้ใช้เวลาตลอดภารกิจรวมทั้งสิ้น 8 ชั่วโมง 35 นาที
.

หลังจากนั้นก็ไม่มีใครลงไปสำรวจบริเวณดังกล่าวอีกเลยจนถึงปี 2012 ที่ช่องสารคดีชื่อดังเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ได้ลงไปสำรวจหลุมดังกล่าวอีกครั้ง โดยได้ผู้กับกำฝีมือดีอย่าง เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับหนังเรื่องอวตาร ไททานิก และเทอร์มิเนเตอร์ มาร่วมถ่ายทำด้วย
.

โดยเจมส์ คาเมรอน ได้นั่งเรื่อดำน้ำชื่อ “ดีพซี ชาเลนเจอร์” (Deepsea Challenger) ความยาว 7.3 เมตร ลงไปสำรวจและถ่ายภาพเพียงลำพัง ซึ่งเรือลำนี้ใช้เวลาออกแบบและสร้างยาวนานถึงแปดปี เพื่อให้ได้เรือที่สมบูรณ์แบบเหมาะกับภารกิจที่สุด
.

ผลที่ออกมาคือ เรือลำนี้ก็มีทั้งไฟขนาดใหญ่เพื่อให้แสงสว่างใต้ทะเลลึก มีกล้องสำหรับถ่ายภาพใต้น้ำหลายตัวติดไว้ รวมถึงแขนกลอีกหนึ่งข้างเพื่อใช้เก็บตัวอย่างดินและสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ ซึ่งเรือดำน้ำและอุปกรณ์ทั้งหมดก็ถูกทดสอบแล้วว่าสามารถทนแรงกดดันของน้ำได้มากถึง 16,000 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว เพื่อที่จะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุเรือรั่วเหมือนในภารกิจแรกอีก
.

ในภารกิจนี้ เจมส์ คาเมรอนใช้เวลาในการเดินทางลงสู่ก้นมหาสมุทรราว 2 ชั่วโมง แถมยังได้ยื่นแขนออกไปสัมผัสน้ำระหว่างที่กำลังดำดิ่งลงไปด้วย เขาบรรยายความรู้สึกในตอนนั้นไว้ว่าน้ำที่อยู่ด้านนอกร้อนจัดราวกับอยู่ในห้องเซาน่า ทว่าเมื่อเรือดำน้ำดำลึกลงไป อุณหภูมิน้ำรอบตัวกลับเย็นลงจนเหมือนอยู่ในตู้แช่แข็ง แสงสว่างก็ลดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งเมื่อเรือดำน้ำดำอยู่ที่ความลึก 3,300 ฟุต รอบตัวเขาก็มืดสนิท
.

เมื่อเรือดำน้ำเดินทางมาถึงจุดที่ลึกที่จุดพบว่าน้ำมีอุณหภูมิอยู่ที่ 1-4 องศาเซลเซียส และมีแรงกดดันมากถึง 1,000 เท่าของแรงกดที่ระดับน้ำทะเล อีกทั้งเขายังพบว่ายิ่งสำรวจลึกลงไปเท่าไหร่ สิ่งมีชีวิตก็ยิ่งมีขนาดเล็กลงเท่านั้น โดยที่ใต้ท้องทะเลนั้นเจมส์ คาเมรอนก็ได้เจอกับสัตว์ขนาดเล็กอย่างกุ้งและหนอน รวมถึงจุลทรีย์จำนวนมาก
.

แล้วถ้าใครอยากเห็นภาพการผจญภัยของเจมส์ คาเมรอนแบบเต็มๆ เขาก็ได้นำสารคดีชิ้นนั้นมาตัดต่อเป็นภาพยนต์ 3 มิติ ในชื่อเรื่อวว่า “Deepsea Challenger” เพื่อให้คนดูรู้สึกเหมือนได้ลงไปสำรวจโลกใต้ทะเลเองด้วย ซึ่งถ้าหากเพื่อนๆ คนไหนสนใจก็สามารถไปตามดูหนังเรื่องนี้กันได้นะคะ และถ้าหากใครชื่นชอบบทความสาระดีดีอย่างนี้ ก็อย่าลืมกดไลก์และติดตามเฟซบุ๊กแฟนเพจ eduHUB ไว้ เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความและคลิปใหม่ๆ ของพวกเราด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ