
ในช่วงนี้กระแสของ Squid Game ซีรีส์เกาหลีเรื่องใหม่ของ Netflix กำลังได้ตวามนิยมไปทั่วโลก ด้วยเนื้อหาที่นำเสนอด้านความเหลื่อมล้ำของสังคม ส่งผลให้ซีรีส์ดังและสามารถเพิ่มยอดผู้ใช้งานแพลตพอร์ม Netflix ได้อย่างมหาศาล เหล่าทีมนักแสดงเองก็ได้รับความสนใจมากขึ้นด้วยยอดผู้ติดตามในอินสตาแกรมเพิ่มขึ้นมาก รวมทั้งยังทำให้ขนมที่ปรากฏอยู่ในเรื่องอย่างทัลโกนาฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมืองอีกด้วย และล่าสุดซีรีส์นี้ได้กลายเป็นแรงบัลดาลใจให้เกิดเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ที่มีชื่อว่า Squid วันนี้พวกเราชาว eduHUB จะพาเพื่อนๆไปพบกับเหรียญคริปโตเคอเรนซี่น้องใหม่มาแรงที่ได้แรงบัลดาลใจมากจากซีรีส์ยอดนิยมอย่าง Squid Game แต่ก่อนที่จะไปรับฟังเรื่องราวสนุกๆในวันนี้ ขอขอบคุณผู้สนับสนุนใจดี BEEclean แอพเรียกแม่บ้านสำหรับคุณ
.

Squid Game เป็นซีรีส์ของเกาหลีใต้ภายใต้ Netflix ที่เกี่ยวกับผู้คนที่สิ้นหวังและมีปัญหาในชีวิต มาแข่งขันกันเพื่อชิงเงินรางวัลในเกมที่ต้องเอาชีวิตรอดที่โหดเหี้ยม หลังจากที่ซีรีส์นี้ได้ทำการฉายก็เกิดเป็นกระแสความนิยมไม่ว่าจะภายในประเทศหรือต่างประเทศเองก็ตาม ทำให้เกิดกระแสฟีเวอร์ต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นขนมทัลโกนาของเกาหลี ซึ่งเป็นขนมน้ำตาลกวนเข้ากับเบคกิ้งโซดา และพิมพ์ภาพไว้ตรงกลาง จากนั้นให้เราแกะออกมาให้สมบูรณ์ที่สุดตามในซีรีส์
.
ขนมทัลโกนากลายเป็นกระแสที่ทำให้ชาวเน็ตฮิตทำตามกันทั่วบ้านทั่วเมือง ไม่เพียงแต่ขนมเท่านั้นทีมนักแสดงเองก็ได้รับกระแสความนิยมมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น จองโฮยอน นางแบบชาวเกาหลีใต้ ที่ได้รับกระแสจากซีรีส์นี้จนเป็นดาราดาวรุ่งพุ่งแรง ด้วยยอดผู้ติดตามบนอินสตาร์แกรมที่เพิ่มขึ้นกว่า 20 เท่าตัว ทำให้ตอนนี้ จองโฮยอน มียอดผู้ติดตามถึง 23 ล้านฟอลโลเวอร์ไปแล้ว
.

หลังจากกระแสความนิยมของซีรีส์จึงทำให้เกิดเป็นแรงบัลดาลใจให้เกิดเหรียญคริปโตเคอเรนซี่น้องใหม่ไฟแรงอย่าง Squid บน Binance Smart Chain เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนการซื้อขาย Squid ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 0.012 ดอลลาร์ในวันอังคาร แต่อยู่ที่ 9.19 ดอลลาร์ในวันศุกร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 75,000% มูลค่าตลาดที่ปรับลดแล้วทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 722 ล้านดอลลาร์
.
Squid จะเป็นเหรียญที่ใช้ในการเล่นเกมในรูปแบบ Play-to-Earn เกมออนไลน์ที่ผู้เล่นสามารถเพิ่มเหรียญได้มากขึ้นนั่นเอง และสามารถนำไปแลกเปลี่ยนเป็นคริปโตเคอเรนซี่อื่นๆได้อีกด้วย ตัวเกมจะเป็นทัวร์นาเมนต์ที่มีทั้งหมด 6 ด่านเหมือนกับในซีรีส์ อย่างเช่นเกม ‘Red Light, Green Light’, ‘Dalgona Candy’ หรือ ‘Tug of war’ ซึ่งตัวทัวร์นาเมนต์จะเปิดให้เข้าร่วมภายในเดือนพฤจิกายนนี้
.

แต่ในการเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์นั้นไม่ได้จะสามารถเข้าได้ฟรีๆ เพราะจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการเข้าเล่นที่สูงขึ้นเรื่อยๆ โดยจะต้องจ่ายเป็นเหรียญ Squid เท่านั้น อย่างในเกมแรก Red Light, Green Light จะต้องจ่ายทั้งหมด 456 Squid และเกมถัดไปจะต้องจ่าย 1,000 Squid จะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆในด่านถัดไป รวมถึงยังมีด่านที่จะต้องใช้ NFT เพื่อเป็นบัตรผ่านเข้าไปเล่นเกมอีกด้วย ซึ่งเราสามารถได้รับ NFT จากการเข้าเล่นเกมเองได้ และใน NFT แต่ละชิ้นก็ยังมีความสามารถเฉพาะตัวให้กับผู้เล่นอีกด้วย เช่น สามารถเป็นบัตรผ่านให้ไปในด่านต่อไป หรือ เพิ่มความสามารถพิเศษที่จะทำให้ผ่านด่านนั้นง่ายขึ้น ยิ่งมีคนเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์มากเท่าไหร่ก็จะได้ผลตอบแทนมากขึ้น ตามเอกสารฉบับที่ระบุว่านักพัฒนาซอฟต์แวร์จะหักค่าธรรมเนียมแรกเข้า 10% ส่วนที่เหลืออีก 90% มอบให้กับผู้ชนะ
.
ข้อควรระวังสำหรับผู้ที่สนใจที่จะซื้อ เพราะมีการออกมาเตือนจาก CoinMarketCap ว่าพวกเขาได้รับรายงานหลายฉบับว่ามีผู้ใช้จำนวนมากไม่สามารถขายต่อโทเค็นของพวกเขาได้ในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลบนบนแพลตฟอร์ม PancakeSwap ซึ่งเป็น DEX หรือเว็บไซต์แลกเปลี่ยนสินทรัพย์โดยปราศจากตัวกลาง แต่ก็ยังไม่มีเหตุผลที่ชชัดเจนว่าทำไมผู้ใช้บางรายถึงไม่สามารถขายโทเค็นของตนเองได้
.

แต่ถ้าหากเข้าไปอ่านข้อมูล Whitepaper ของเหรียญ Squid ก็ได้มีการระบุถึง Anti-dumping ซึ่งเป็นนโยบายเกี่ยวกับการขายเหรียญที่จะจำกัดผู้คนในการซื้อขายเหรียญของพวกเขา ผู้ใช้บางรายที่มีเงื่อนไขไม่ตรงกับระบบก็จะไม่สามารถขายเหรียญดังกล่าวได้ ทั้งนี้น่าแปลกใจมากที่เหรียญยังคงดึงดูดเหล่านักลงทุนอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว นำไปสู่มูลค่าของเหรียญที่พุ่งสูงขึ้น โดยเหรียญ Squid ได้เริ่มพรีเซลมาตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค และ Whitepaper ได้ระบุว่าเหรียญถูกขายหมดภายใน 1 วินาที โดยได้ทำสถิติสูงถึงเหรียญละ 2856.64 ดอลลาร์
.
เรียกได้ว่าเกมที่เล่นเพื่อหารายได้กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 เนื่องจากเกมออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นสูง รวมกับมีการพัฒนาที่ใช้เทคโนโลยี GameFi ซึ่งเป็นการรวมความบันเทิงเข้ากับเครื่องมือในการหารายได้ แต่ก็ไม่ใช่เพียงเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ที่ได้รับประโยชน์จากความนิยมของเกม squid จากรายงานก็พบว่ารายได้ที่ได้จากการสมัครสมาชิกแพลตฟอร์ม Netflix หลังจากเปิดตัวซีรีส์ Squid Game มีมูลค่าถึง 900 ล้านดอลลาร์ เมื่อดทียบจากทุนในการสร้างที่ใช้ทุนไปเพียง 21.4 ล้านดอลลาร์สำหรับเรื่องราวสนุกๆในวันนี้ก็มีเพียงเท่านี้ แต่ก่อนจะจากกันไปในวันนี้หากคุณกำลังมองหาแม่บ้านทำความสะอาดอยู่ใช่ไหม ถ้าใช่ ต้องนี่เลย BEEclean แอปเรียกแม่บ้านสำหรับคุณ