
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา การใช้สกุลเงินดิจิทัลทั่วโลกเติบโตขึ้นอย่างมาก ระหว่างมกราคม 2020 ถึงมกราคม 2021 จำนวน Wallet Crypto ที่ใช้กันทั่วโลกเพิ่มขึ้น 45% ประมาณ 66 ล้าน และในเดือนสิงหาคม Chainalysis ได้ออกมาเผยแพร่รายงานแสดงผลดัชนีของคริปโตเคอเรนซี่ทั่วโลก อย่าง Global cryptocurrency adoption index วันนี้พวกเราชาว eduHUB จะพาเพื่อนๆไปพบกับการรายงานดัชนีความนิยมคริปโตเคอเรนซี่ทั่วโลก กับผลลัพธ์ที่ทำให้เวียดนามขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของโลกในการใช้คริปโตเคอเรนซี่ แต่ก่อนที่จะไปรับฟังเรื่องราวสนุกๆในวันนี้ ขอขอบคุณผู้สนับสนุนใจดี BEEclean แอพเรียกแม่บ้านสำหรับคุณ
.

ในเดือนสิงหาคม Chainalysis ได้เผยแพร่ดัชนีการยอมรับคริปโตเคอเรนซี่ (cryptocurrency) ทั่วโลกเป็นครั้งที่สองซึ่งรายงานว่ามีการใช้ crypto ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 880% โดยได้รับแรงหนุนจากการซื้อขายแบบ peer-to-peer (P2P) และการใช้งานในตลาดเกิดใหม่เช่นแอฟริกา ทีม Chainalysis ติดตามข้อมูลจากผู้ให้บริการคริปโตเคอเรนซี่ 7,000 ราย ใน 158 ประเทศทั่วโลก โดย Chainalysis เป็นบริษัทวิเคราะห์ Blockchain ที่จะจัดหาข้อมูลและวิเคราะห์ให้กับหน่วยงานรัฐบาล ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยน และสถาบันการเงินกว่า 40 ประเทศทั่วโลก
.
โดย Chainalysis จะทำการตรวจสอบให้เป็นไปตามกฎระเบียบ และยังให้ความรู้รวมสนับสนุนการใช้เหรียญคริปโตเคอเรนซี่ด้วยความโปร่งใสอีกด้วยChainalysis จะใช้เครื่องมืออย่าง Chainalysis KYT ซึ่งจะเป็นเครื่องที่จะช่วยให้กับธุรกิจสกุลเงินดิจิทัลหรือสถาบันทางการเงินต่างๆสามารถตรวจสอบการทำธุรกรรมที่ผิดปกติ อย่างเช่น การเคลื่อนไหวของเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ในปริมาณที่มากผิดปกติและบ่งชี้ว่าเป็นธุรกกรมที่มีความเสี่ยงสูง ต่อมาคือ Chainalysis Reactor จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยหน่วยงานทางกฎหมายในการตรวจสอบอาชญากรรมเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซี่ ถัดมาคือ Chainalysis Kryptos ที่จะช่วยสำรวจโอกาสและประเมินความเสี่ยงของสกุลเงินดิจิทัลให้กับสถาบันการเงิน จากข้อมูล Know Your Customer (KYC) และข้อมูลบล็อกเชนที่เชื่อถือได้ที่สุดในอุตสาหกรรม
.

เราพอที่จะได้รู้จักกับ Chainalysis ไปบ้างแล้ว ต่อมาคือรายงานที่เราจะพูดถึงกันนั่นก็คือ ‘Global cryptocurrency adoption index’ โดยข้อมูลดัชนีที่ผ่านมาทำให้เราเห็นว่า เวียดนาม ได้ขึ้นแท่นมาเป็นอันดับหนึ่งในการใช้คริปโตเคอเรนซี่ตามมาด้วยอินเดีย และปากีสถาน พร้อมมีทั้ง 6 ประเทศใน 20 อันดับแรกเป็นประเทศที่อยู่ในทวีปแอฟริกา ส่วนประเทศไทยยังคงอยู่ในอันดับที่ 12
.
จากคำกล่าวของหัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Chainalysis อย่าง Kim Grauer เขาได้เปิดเผยว่า “ทางทีมวิจัยได้มีการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์การจัดอันดับเพื่อเจาะเข้าไปสู่ใช้นำใช้คริปโทเคอเรนซี่จริงๆ ของประเทศนั้นๆ ให้ลึกเข้าไปมากกว่าเดิม” และ “ด้วยสถาบันที่มีขนาดใหญ่ต่างๆ ทำให้ข้อมูลของเราพุ่งขึ้นไปสูงกว่าปกติ
.

ดังนั้นเราจึงจะต้องวิเคราะห์น้ำหนักข้อมูลเหล่านี้ให้เหมาะสมมากขึ้นด้วยเกณฑ์การวัดใหม่ของเรา เราจะเจาะลึกเข้าไปสู่การใช้งานคริปโทแบบวันต่อวันอย่างข้อมูลของร้านขายของ หรือใครก็ตามที่รับการจ่ายเงินด้วยคริปโทเคอร์เรนซี แทนที่จะไปวัดจากการใช้งานโดยสถาบันใหญ่ๆ” ในช่วงระหว่างเดือนมีนาคม 2563 ถึงมีนาคม 2564 ได้เผยข้อมูลว่ามีการโอนธุรกรรมมาจากนอกทวีปแอฟริกากว่า 96% ของปริมาณธุรกรรมครืปโตเคอเรนซี่ทั้งหมดในทวีป และรวมไปถึงการซื้อขายแบบ Peer-to-peer (ผู้ซื้อและผู้ขายติดต่อกันเอง)
.
นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่าแอฟริกามีสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุดของปริมาณธุรกรรม P2P (เป็นเปอร์เซ็นต์ของปริมาณธุรกรรม crypto ทั้งหมดในภูมิภาค) อยู่เหนือตลาดคริปโตเคอเรนซี่ อื่น ๆ เช่นละติน อเมริกา เอเชียกลางและเอเชียใต้ แอฟริกายังมีตลาดซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่ค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุด คิดเป็น 7% ของตลาดทั้งหมดทั่วโลกตามรายงาน
.

Chainalysis จะใช้ตัวชี้วัดสามตัวในการให้คะแนนประเทศตามดัชนีที่ได้รับการยอมรับในปีนี้ อย่างแรกคือ มูลค่าโดยรวมของคริปโตเคอเรนซี่ที่ประเทศหนึ่งได้รับ, คริปโตเคอเรนซี่ที่แลกเปลี่ยนโดยนักลงทุนคริปโต (นับเฉพาะธุรกรรมที่น้อยกว่า $ 10,000) และปริมาณการซื้อขายแลกเปลี่ยน P2Pแต่ตัวชี้วัดทั้งสามได้รับวิเคราะห์ ‘ภาวะเสมอภาคของอำนาจซื้อ’ หรือ Purchasing power parity (PPP) ต่อหัว จะหมายความว่าถ้ามีสองประเทศมีมูลค่าคริปโตเคอเรนซี่เท่ากัน ประเทศที่มี PPP ต่อหัวน้อยกว่าก็จะถูกจัดอันดับไว้ด้านหน้า และสิ่งทำให้ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจไม่ใหญ่มากอย่าง เวียดนาม และเคนย่า ขึ้นมามีอันดับการใช้คริปโตเคอเรนซี่ที่สูงกว่าประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ๆ
.
“เวียดนามแข็งแกร่งในภาพรวม, อินเดียแข็งแกร่งในด้านของมูลค่าที่ได้รับ, ปากีสถานแข็งแกร่งในด้านของตลาด Peer-to-peer และทั้ง 3 ประเทศก็ถูกจัดอยู่ใน 3 อันดับแรก” Kim Grauer กล่าว ถ้าหาก Chainalysisไม่ได้ทำการคำนวณโดยใช้ค่า PPP ต่อหัว ก็จะเป็นประเทศจันและสหรัฐอเมริกาที่จะขึ้นไปอยู่บนอันดับสูงสุดของดัชนี เพราะมีจำนวนประชากรและกำลังซื้อที่มาก ทั้งนี้ Kim Grauer ได้กล่าวปิดท้ายว่า โดยรวมแล้วในปี 2020 และ 2021 เป็นปีของการนำคริปโตเคอเรนซี่ไปใช้ในตลาดใหม่ๆและในประเทศกำลังพัฒนา และผลดัชนีการวิเคราะห์ของ Chainalysis ก็เป็นเครื่องพิสูจน์เรื่องนี้
.
โดยการจัดอันดับของ ‘Global cryptocurrency adoption index’ ที่มีการเผยแพร่ไปแล้วในเดือนสิงหาคม เป็นส่วนหนึ่งของรายงาน ‘Geography of Cryptocurrency 2021’ ที่จะมีการเผยแพร่ฉบับเต็มในเดือนตุลาคมนี้นี่เอง หลังจากนี้เราคงจะได้เห็นการเติบโตของตลาดสกุลเงินดิจิทัลที่กำลังเติบโตและดึงดูเหล่านักลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับเรื่องราวสนุกในวันนี้ก็มีเพียงเท่านี้ แต่ก่อนจะจากกันไปในวันนี้หากคุณกำลังมองหาแม่บ้านทำความสะอาดอยู่ใช่ไหม ถ้าใช่ ต้องนี่เลย BEEclean แอปเรียกแม่บ้านสำหรับคุณ