นั่งเครื่องบินนาน จะเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโคโรนามั้ย?

เชื้อโคโรนา

จากเหตุการณ์ล่าสุดที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบ จนมีผู้ป่วยกระจายกันอยู่เกือบทั่วทุกเมืองในประเทศจีน (ยกเว้นในทิเบต) ตอนนี้มีจำนวนผู้ป่วยสูงถึง 2,744 ราย และในจำนวนนี้มีผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงถึง 461 ราย และเสียชีวิต 80 ราย

นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยในประเทศอื่นๆ อีก รวมทั่วโลกแล้วมีจำนวนทั้งสิ้นถึง 2,802 ราย โดยในประเทศไทยก็พบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งล่าสุดมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 14 คน ผู้ติดเชื้อ 5 คนได้ถูกส่งตัวกลับประเทศ ส่วนอีก 9 คนที่เหลือยังคงพักรักษาตัวอยู่ในห้องแยกโรค และสาเหตุที่ยังคงมีผู้ติดเชื้อเล็ดลอดเข้ามาในประเทศได้นั้นเป็นเพราะในตอนแรกผู้ป่วยยังไม่แสดงอาการอะไรออกมา แต่หลังจากที่เริ่มมีอาการป่วย กลุ่มคนเหล่านั้นก็ถูกส่งเข้าโรงพยาบาลก่อนจะถูกส่งไปรักษาในห้องแยกโรคต่อไป

ตอนนี้ยังไม่มีผลสรุปที่แน่ชัดว่าต้นเหตุของเชื้อไวรัสโคโรนานี้เกิดจากอะไรกันแน่ แต่คาดว่าน่าจะเกิดจากการติดเชื้อจากสัตว์มาสู่คน ซึ่งอาจจะเป็นงู ค้างคาว หรือสัตว์พาหนะอื่นๆ ก็ได้ โดยการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนานี้ทำให้มีการยกเลิกเที่ยวบินจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีนไป และมีการพ่นยาฆ่าเชื้อเครื่องบินทุกลำที่เดินทางมาจากจีน แต่ถึงอย่างนั้นหลายคนก็อาจจะยังติดใจว่าจะทำอย่างไรถึงจะปลอดภัยจากการติดเชื้อเหล่านี้ ยิ่งถ้าหากเราจำเป็นต้องอยู่ในพื้นที่บินอย่างเครื่องบินด้วยแล้วล่ะก็เราจะมีโอกาสติดเชื้อไปด้วยมั้ย?

ย้อนกลับไปในปี 1980 เคยมีข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อวัณโรคบนเครื่องบินที่ต้องบินเป็นระยะเวลานานๆ ทำให้ผู้โดยสารติดเชื้อไปกันหมด อย่างกับหนังซอมบี้ World War Z อย่างไรอย่างนั้น แต่จริงๆ แล้วข่าวนี้ยังไม่มีหลักฐานที่่ชัดเจนว่าเป็นความจริงหรือไม่ แต่จากการวิจัยขององค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่าผู้โดยสารที่เดินทางโดยเครื่องบินมีความเสี่ยงน้อยมากที่จะติดเชื้อ เนื่องจากในห้องโดยสารของเครื่องบินมีการควบคุมอากาศอย่างระมัดระวัง โดยจะระบายลมจากภายนอกเพื่อให้มีอากาศหมุนเวียน 20-30ครั้งต่อชั่วโมง ผ่านระบบกรองอากาศคุณภาพสูงแบบเดียวกับที่ใช้ในห้องผ่าตัดและห้องฉุกเฉิน ทำให้เครื่องกรองอากาศบนเครื่องบินสามารถดักจับฝุ่น แบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าผู้โดยสารบนเครื่องบินจะไม่มีโอกาสติดเชื้อซะทีเดียว เพราะเชื้อไวรัสโคโรนานั้นสามารถติดต่อกันได้ผ่านการไอ จาม และสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสผู้ป่วยโดยตรงหรือสัมผัสสารคัดหลั่งบนสิ่งของที่ผู้ป่วยเคยสัมผัส ซึ่งเชื้อไวรัสที่ผู้ป่วยทิ้งไว้บนสิ่งของนี้เองที่จะไม่ถูกดูดผ่านเครื่องกรองอากาศ ทำให้เชื้อไวรัสหลงเหลืออยู่ตรงนั้น รอผู้โดยสารที่โชคร้ายคนอื่นมาสัมผัสและเกิดจากติดเชื้อเช่นเดียวการติดเชื้อบนสถานที่อื่นๆ เช่น รถไฟหรือรถเมล์

ดังนั้นการที่เราลุกจากที่นั่งแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำบ่อยๆ จึงเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้ไปสัมผัสโดนเชื้อไวรัส ในกรณีที่มีผู้ติดเชื้ออยู่บนเครื่อง ดังที่งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยฟลอริด้า ในปี 2018 ระบุไว้ แต่ถ้าเรานั่งเฉยๆ คนที่มีโอกาสติดเชื้อคือคนที่นั่งใกล้ผู้ติดเชื้อในรัศมี 1 เมตรเท่านั้น โดยคนที่นั่งอยู่ห่างที่สุดจะมีโอกาสติดเชื้อแค่ 3% เท่านั้น แต่เพื่อความปลอดภัย ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนก็ควรล้างมืออย่างสม่ำเสมอ และใส่หน้ากากอนามัย N95 ที่สามารถกรองทั้งเชื้อไวรัสและฝุ่นไว้ตลอดเวลาจะดีกว่า

การเดินทางโดยเครื่องบินยังมีความเสี่ยงอยู่บ้าง ถ้าไม่จำเป็นช่วงนี้ก็ไม่ควรที่จะออกไปไหน เเต่ถ้าหากใครจำเป็นที่จะต้องเดินทางจริงๆ เราก็สามารถป้องกันได้ในระดับนึง ทั้งการล้างมืออยู่เป็นประจำ เเละใส่หน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อไวรัสไว้อย่างสม่ำเสมอ ถ้าใครชอบบทความดีดีอย่างนี้ ก็อย่าลืมกดติดตามและกดกระดิ่งช่อง eduHUB กันด้วยนะคะ