ก่อนหน้านี้พวกเรา eduHUB เคยนำเสนอเรื่อง “ปริศนา ‘ภาพวาดโบราณ’ ที่ใช้สื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว” ของประเทศเปรูไปแล้ว
.
แต่ความเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาวของที่นี่ยังไม่จบสิ้นแต่เพียงเท่านั้น เพราะเมื่อปีค.ศ.2017 ก็มีรายงานว่าพบมัมมี่รูปร่างคล้ายมนุษย์ในประเทศดังกล่าวด้วย ทว่ามัมมี่ร่างนี้กลับมีบางส่วนที่ดูผิดมนุษย์ นั่นคือทั้งมือและเท้าของมันมีนิ้วงอกยาวออกมาเพียงแค่ 3 นิ้วเท่านั้น! แถมผู้เชี่ยวชาญจากรัสเซียยังยืนยันแล้วว่านี่ไม่ใช่ศพของมนุษย์อย่างเราๆ แน่นอน!!
.
ซากศพมัมมี่ 3 นิ้วนี้พบอยู่ในสุสานแห่งหนึ่ง ไม่ห่างจากภูเขาที่มี “สายเส้นนาซก้า” (Nazca Lines) มากนัก ไม่มีใครรู้ว่ามัมมี่ร่างนี้เป็นใคร มาจากไหน แต่ผู้ค้นพบก็ตั้งชื่อให้เธอว่า “มาเรีย” (Maria)
.
ซึ่งไม่ไกลจากร่างของเธอก็ยังมีมัมมี่ทารกอายุเพียงแค่ 9 เดือนถูกฝังอยู่ด้วย ทำให้หลายคนเชื่อว่ามัมมี่สองร่างนี้น่าจะเป็นแม่ลูกกัน โดยพวกเขาได้ตั้งชื่อให้มัมมี่ทารกว่า “น้องวาวิตา” (Vavita)
.
จากการตรวจสอบพบว่ามัมมี่ทั้งสองมีอายุมากกว่า 6,500 ปีแล้ว จึงมีข่าวลือว่าหลังจากที่ชาวนาซก้าพยายามติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวผ่านภาพวาดขนาดยักษ์ มนุษย์ต่างดาวก็ได้มาเยือนสถานที่แห่งนี้จริงๆ และได้เสียชีวิตลงที่หมู่บ้านแห่งนี้ก่อนที่ชาวนาซก้าจะนำร่างของเอเลี่ยนทั้งสองมาฝังไว้ที่สุสาน
.
แต่ในขณะเดียวกันนักวิทยาศาสตร์หลายคนก็ยังคงสงสัยอยู่ว่าบางทีนี่มันอาจจะเป็นเพียงแค่เรื่องหลอกลวงก็ได้ เพราะดูจากผิวสัมผัสของมัมมี่แล้ว มันเหมือนกับรูปปั้นปูนปลาสเตอร์มากกว่า
.
เรื่องนี้ดังไปถึงหูของ ศจ.คอนสแตนติน โครอทคอฟ (Konstantin Korotkov) ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติรัสเซีย ทำให้เขาได้เข้ามาตรวจสอบศพของมัมมี่แม่ลูกคู่นี้ด้วยตัวเอง
.
โดยการนำเศษเนื้อเยื่อมาวิเคราะห์และทำซีทีสแกนซากของมัมมี่ทั้งร่าง ผลที่ได้ออกมาพบว่ามัมมี่ที่ชื่อว่ามาเรียเป็นศพของมนุษย์จริงๆ โดยเธอมีโครโมโซมทั้งหมด 23 คู่ มีเนื้อเยื่อ และกรดอะมิโนในร่างกายตรงกับมนุษย์ทุกอย่าง เว้นเสียแต่ว่าตำแหน่งซี่โครงของเธออยู่ผิดจากตำแหน่งของมนุษย์ทั่วไป
.
ส่วนสาเหตุที่ผิวของเธอแข็งเหมือนปูนปลาสเตอร์นั้นก็เป็นเพราะผงแคดเมียมคลอไรด์ที่เอาไว้ใช้กำจัดแบคทีเรีย คาดว่าศพของเธอน่าจะถูกพอกด้วยสารดังกล่าวเพื่อรักษาสภาพศพและทำเป็นมัมมี่ ทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นรูปปั้นปูนปลาสเตอร์ที่สร้างขึ้นมาหลอกคนอื่นว่าเป็นเอเลี่ยน
.
ทางด้านมัมมี่ทารกวาวิตาเองก็เช่นเดียวกัน โดยน้องมีองค์ประกอบทุกอย่างที่บ่งชี้ว่าน้องเป็นมนุษย์ (ศจ.โครอทคอฟยังพบด้วยว่าจริงๆ แล้วน้องวาวิตาเป็นผู้ชายนะ)
.
แต่โครงสร้างบางอย่างของน้องก็มีความแตกต่างไปจากมนุษย์ปกติเช่นเดียวกับมัมมี่มาเรีย โดยน้องมีส่วนสูง 70 ซม. มีนิ้วเพียงแค่สามนิ้ว และมีกะโหลกศีรษะที่ยาวออกไปทางด้านหลังคล้ายกับหัวของเอเลี่ยน
.
ศจ.โครอทคอฟ จึงสรุปว่ามัมมี่ทั้งสองอาจจะเป็นมนุษย์ต่างดาว หรือไม่ก็มนุษย์ยุคโบราณคนละสายพันธุ์กับมนุษย์อย่างเราๆ ที่นั่งกันอยู่ตรงนี้ก็ได้ แต่ที่แน่ๆ ทั้งสองไม่ใช่มนุษย์เผ่าพันธุ์เดียวกับมนุษย์ปัจจุบันแน่นอน เขาจึงนับว่ามัมมี่เหล่านี้ “ไม่ใช่มนุษย์”
.
ผลการทดลองดังกล่าวทำให้ความเห็นแตกออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายที่เชื่อเรื่องเอเลี่ยนก็บอกว่า นี่ไง! เห็นชัดๆ อยู่ว่ามัมมี่ทั้งสองเป็นของจริง ไม่ใช่รูปปั้น แล้วมันก็มีโครงสร้างไม่เหมือนมนุษย์ด้วย!
.
ในขณะที่ฝั่งไม่เชื่อเรื่องเอเลี่ยนกลับมองว่าผลวิเคราะห์โครโมโซมและอื่นๆ ก็ชี้ให้เห็นอยู่แล้วว่านี่มันมนุษย์ชัดๆ แค่มีโครงสร้างกระดูกต่างกันนิดหน่อย อาจจะเพราะความพิการหรือวิวัฒนาการก็ได้ แต่ยังไงนี่ก็เป็นศพมนุษย์ ไม่ใช่ศพเอเลี่ยนแน่นอน!
.
พอฟังความคิดเห็นของทั้งสองฝ่ายแล้ว เพื่อนๆ คิดว่ายังไงกันบ้างคะ เชื่อฝั่งไหนมากกว่ากัน หรือถ้าไม่เชื่อทั้งคู่ แล้วเพื่อนๆ มีความคิดเห็นอื่นที่แปลกใหม่กว่าก็พิมพ์เข้ามาบอกกันในคอมเม้นต์ได้เลยนะคะ
.
และถ้าหากใครชื่นชอบบทความสาระดีดีอย่างนี้ ก็อย่าลืมกดไลก์และติดตามเฟซบุ๊กแฟนเพจ eduHUB ไว้ เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความและคลิปใหม่ๆ ของพวกเราด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
.
สนับสนุนโดย chatBEE แอพที่คนเหงาเค้าโหลดกัน ค้นหาคนรู้ใจใกล้คุณ ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง IOS และ Andriod