ทุกคนคงรู้จักภาพยนต์ฟอร์มยักษ์อย่าง Iron Man จากค่าย Marvel Sutdio ที่สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก นอกจากตัวภาพยนต์ที่มีความสนุก และเพลิดเพลินแล้ว ในภาพยนต์ยังแสดงให้เราเห็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยและก้าวกระโดด อย่างที่เห็นได้ชัดเลยคือ ชุดเกราะของ Iron Man มันจึงเกิดเป็นไอเดียให้กับนักประดิษฐ์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่ต้องการที่จะให้เกิดชุดIron Man ในโลกของควมเป็นจริง
.
แต่ก่อนจะไปรับฟังเรื่องราวสนุกๆในวันนี้ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลัก Chatbee แอพหาคนรู้ใจใกล้คุณ โหลดเลยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
.
Iron Man คือหนึ่งในคาแรคเตอร์ที่หลายคนชื่นชอบ เพราะมีอะไรเจ๋งๆให้เราได้รู้สึกแปลกตาและเซอร์ไพรส์คนดูในทุกภาคของภาพยนต์โดยเฉพาะชุดเกราะ ที่แต่ละภาคนั้นจะถูกพัฒนาขึ้นมาทั้งความสามารถและดีไซน์ใหม่ให้ดูทันสมัยและล้ำมากขึ้น แม้แต่ทางกองกำลังของสหรัฐอเมริกา ก็กำลังพัฒนาชุดเกราะที่มีไอเดียคล้ายๆกับ Iron Man อยู่เช่นกัน โดยมีชื่อว่า Tactical Assault Light Operator Suit หรือเรียกสั้นๆว่า Talos
.
โดยเป็นเกราะที่บางเหมือนกับผิวหนังของมนุษย์ แต่สามารถกันกระสุนปืนได้อย่างสบาย โดยใช้สสารที่มีความแข็งแกร่งมากเป็นพิเศษ โดยมีคุณสมบัติอย่างอื่นด้วยเช่น น้ำหนักเบา ยืดหยุ่นตามร่างกายได้เหมือนน้ำ แถมยังสามารถวัดคลื่นหัวใจ การหายใจ อุณหภูมิและความชื้นของผู้ใส่อีก แต่จุดเด่นของ Iron Man คือการบินบนอากาศได้อย่างสบายและอิสระ ซึ่งตอนนี้ก็ได้มีสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถทำให้มนุษย์บินได้คล้ายคลึงกับชุดเกราะ Iron Man แล้ว ได้แก่
.
เมื่อปี 2018 ริชาร์ด บราวนิ่ง อดีตนักลงทุนตลาดน้ำมันวัย 39 ปี ชาวอังกฤษ ที่หันมาเปิดบริษัทเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์ทางการบินที่ชื่อว่า กราวิตี้ เขาได้คิดค้นเครื่องสูทบินได้ โดยเขาใช้เวลาหลังเลิกงานในการทำมัน ด้วยสูทนี้คุณสามารถบินด้วยความเร็ว 32 ไมล์ต่อ ชม. และขึ้นไปถึงระดับความสูง 12,000 ฟุตเลยทีเดียว
.
สูทตัวนี้มีส่วนประกอบที่สำคัญคือ ชิ้นส่วนที่พรินต์ 3 มิติ ระบบไฟฟ้า และเครื่องเจ็ท 5 เครื่อง โดยใช้น้ำมันขับเคลื่อนจากน้ำมันนดีเซล เครื่องยนต์ไอพ่นจะใช้น้ำมันทั้งหมด 4 ลิตร/นาที เมื่อบินขึ้นเหนือพื้น ทำให้ผู้สวมชุดสามารถมีระยะเวลาบินได้เพียง 3-4 นาทีต่อครั้ง เรียกได้ว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถเหาะบนอากาศได้จริงในความเร็วที่สูงโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องบินหรือเครื่องร่อนใดๆ
.
ซึ่งทาง ริชาร์ด บราวนิ่ง ได้ทำการเปิดตัวชุดอย่างเป็นทางการ พร้อมกับโชว์บินหน้าห้างสรรพสินค้ากลางกรุงลอนดอน โดยสร้างความตื่นตาตื่นใจแกผู้ผ่านไปผ่านมาและพบเห็นเป็นจำนวนมาก ถึงกับทำให้ผู้ที่สัญจรผ่านไปต้องหยุดชมและถ่ายคลิปวีดีโอเก็บเอาไว้
.
เขาไม่ได้เพียงคิดค้นเจ้าสูทตัวนี้มาเพื่อทำให้คนเรากลายเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ได้เท่านั้น แต่เขามองไปถึงระยะไกลและหวังให้เป็นตัวเลือกหนึ่งในการเดินทางในอนาคต และเจ้าสูทตัวนี้ก็ได้มีการเปิดขายอย่างจริงจัง ที่ห้าง Selfridges ในกรุงลอนดอน โดยวางจำหน่ายเจ้าสูทนี้อยู่ที่ราคาราว 14 ล้านบาท ซึ่งเขามีบริการให้เราสามารถทดลองการใส่สูทนี้ผ่านวีอาร์ให้ได้สัมผัสกันแบบสมจริง
.
และในปี 2020 นี้ ทีม Jetman Dubai ได้ทดสอบชุดบินเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และสามารถทำการบินและความเร็วได้เป็นที่น่าพอใจ สำหรับ “Jetwing” จะถูกสร้างมาด้วยส่วนประกอบที่สำคัญคือ เครื่องยนต์ไมโครเจ็ท 4 เครื่องยนต์ ปีกที่มีความกว้างประมาณ 2.5 เมตรรวมทั้งระบบเชื้อเพลิงและระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการบังคับ
.
ซึ่งราคาในการประดิษฐ์มา ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัด แต่แค่เครื่องยนต์ไมโครเจ็ท 1 เครื่องยนต์ราคาก็ปาเข้าไป สองแสนกว่าบาทแล้ว แต่ในปี 2015 ที่ผ่านมา“Jetman Dubai” เริ่มเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกเนื่องจากพวกเขาทำการบินโฉบ ตีคู่ไปกับ เครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ Airbus A380ของสายการบินอิมมิเรตส์ แอร์ไลน์ ภาพและวีดีโอของพวกเขา ได้แพร่กระจายไปทั่วโลก และทั่วทั้งโลกก็เริ่มรู้จัก “Jetman Dubai” มากขึ้น
.
Vince Reffet เป็นนักบินของทีม Jetman Dubai ได้สวมชุดคาร์บอนไฟเบอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยไอพ่น และสามารถพุ่งขึ้นจากพื้นดินไปในระดับ 100 เมตรด้วยความเร็ว 8 วินาที ก็ที่จะไต่ไปที่ 200 เมตร ในเวลา 12 วินาที และ 500 เมตร ในเวลา 19 วินาที สิ่งที่น่าทึ่งคือเจ้าชุดบินนี้สามารถบินขึ้นไปที่ระดับ 1,000 เมตร ด้วยเวลาเพียง 30 วินาที
.
โดยในการทดสอบนี้ Vince Reffet นักบินของทีม ทำความเร็วโดยเฉลี่ยถึง 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และบินขึ้นไปได้ระดับ 1,800 เมตร นานถึง 3 นาที ก่อนจะลงสู่พื้นด้วยความปลอดภัยด้วยการกางร่ม อีกอย่างเจ้าชุดบินนี้ยังสามารถทำความเร็วได้สูงสุดที่ 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
.
เมื่อควบคุมจากพื้นดิน ปัจจุบัน “Jetman” ทำการบินผาดโผนโชว์ไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศส จีน หรือญี่ปุ่นที่มีแลนด์มาร์คเป็นภูเขาฟูจิอันงดงาม ซึ่ง “Jetman” ก็ไปบินโฉบมาแล้วนอกจากนี้ยังมีประเทศอื่น ๆ อีก ที่ไม่ได้กล่าวถึง
.
ดังนั้นเจ้าชุดบินพวกนี้อาจเป็นตัวการสำคัญที่สามารถเข้ามาพลิกโฉมการเดินทางเดิมๆของมนุษย์สิ่งที่เราจะได้เห็นเลยคือexoskeleton เพื่อช่วยในการใช้แรงงาน หรือแม้กระทั่ง การพยุงตัวผู้ป่วยและผู้สูงอายุหรือแม้กระทั่งการนำมาเป็นชุดเกราะป้องกันที่ปลอดภัยในพื้นที่เสี่ยงภัย
.
แต่ปัญหาที่เราเห็นคือเรื่องของพลังงานที่ยังไม่พอที่จะสามารถทำให้เจ้าชุดบินนี้สามารถขึ้นไปบนอากาศได้ในระยะเวลานานๆ ดังนั้นเราจึงต้องรอดูในอนาคตว่า เราจะสาามารถพลิตและคิดค้นแหล่งพลังงานหรือเทคโนโลยีที่มากเพียงพอที่จะสามารถพามนุษย์บินขึ้นไปอยู่บนอากาศได้อย่างอิสระและเป็นเวลานาน
.
ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลัก Chatbee แอพหาคนรู้ใจใกล้คุณ โหลดเลยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป