วงโคจรโลกกำลังถูกดึง

เชื่อว่าเราทุกคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า วงโคจรของโลกส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมบนโลก ทำให้เกิดกลางวัน-กลางคืน เกิดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ฤดูกาล ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อต้นไม้ พืช มนุษย์ และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ บนโลกอีกทอดหนึ่ง 
.

ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย โลกเราจึงควรจะโคจรรอบตัวเองและรอบดวงอาทิตย์ด้วยอัตราความเร็วและระยะทางที่สม่ำเสมอ แต่ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์กลับค้นพบว่าวงโคจรของโลกเรากำลังถูกดึงให้ยืดออก!? แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร ทำไมวงโคจรของโลกเราถึงเปลี่ยนไป และมันจะเกิดอะไรขึ้นกับโลกเราบ้างก็ต้องตามไปดูพร้อมๆ กันนะคะ แต่ก่อนที่จะไปรับชมกัน อย่าลืมกดไลค์ และกดติดตามเฟซบุ๊กแฟนเพจ eduHUB ไว้ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับพวกเราด้วยนะคะ
.

ก่อนที่เราจะไปพูดถึงการค้นพบใหม่ เราขออนุญาตทบทวนเรื่องวงโคจรตามปกติของโลก เพื่อให้เพื่อนๆ ที่อาจจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วได้เข้าใจกันอีกครั้งนะคะ โดยทั่วไปแล้วโลกของเราจะใช้เวลาหมุนรอบตัวเองทั้งสิ้นราวๆ 23.56 ชั่วโมง ทำให้เกิดช่วงเวลา 1 วัน แต่เผื่อให้นับง่าย เราจะตีเป็น 24 ชั่วโมงแทน และนอกจากหมุนรอบตัวเองแล้ว โลกยังหมุนรอบดวงอาทิตย์ดว้ยโดยใช้เวลารวมทั้งสิ้น 365 วัน หรือก็คือ 1 ปี ซึ่งโลกจะโคจรรอบดวงอาทิตย์ที่อยู่ห่างออกไป 150 ล้านไมล์ด้วยความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อวินาที
.

แต่ล่าสุดทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยรัตเจอร์ส (Rutgers University) รัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ค้นพบว่าวงโคจรของโลกที่เป็นวงรีถูกดึงให้ยืดออกกว่าเดิมถึง 5 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากแรงดึงดูดของดาวศุกร์และดาวพฤหัสบดีที่โคจรเข้ามาใกล้
.

การค้นพบนี้ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร PNAS (Proceedings of the National Academy of Sciences of the United States of America) ซึ่งเป็นวารสารวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยในการวิจัย ทีมงานได้นำชั้นหินโบราณจากทะเลทรายในแอริโซนาและชั้นดินตะกอนที่ก้นทะเลสาบในนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์มาเปรียบเทียบกัน เพื่อดูร่องรอยการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติในอดีต
.

จากการศึกษาพบว่าชั้นหินและดินเหล่านั้นมีร่องรอยของแร่ธาตุอันเกิดจากการกลับขั้วสนามแม่เหล็กโลกซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้งตั้งแต่ช่วงยุคไทรแอสซิกตอนปลาย หรือประมาณ 215 ล้านปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิของโลก นั่นคือจากการสภาพอากาศชุ่มชื้นเปลี่ยนเป็นแห้งแล้ง และกลับเป็นชุ่มชื้นอีกครั้ง สลับกันไปมาเป็นวงจรที่เกิดขึ้นทุกหลายแสนปี
.

สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะวงโคจรของโลกที่เปลี่ยนไปส่งผลให้สภาพอากาศบนโลกเปลี่ยนตาม เมื่อวงโคจรของโลกถูกยืดออก ทำให้โลกถอยออกห่างจากดวงอาทิตย์มากในช่วงเวลาหนึ่ง อุณหภูมิในตอนนั้นจึงเย็นลงและชุ่มชื้นขึ้น แต่เมื่อเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ สภาพอากาศก็จะกลับมาแห้งแล้งอีกครั้ง ซึ่งนักบรรพชีวินวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านวิวัฒนาการก็เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศนี้อาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิตบนโลกด้วย แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่ามันส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง
.

แต่สำหรับใครที่กลัวว่าการเปลี่ยนแปลงของวงโคจรโลกจะทำให้เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงกับสัตว์น้อยใหญ่บนโลกจนเกิดการกลายพันธุ์ล่ะก็ ขอบอกเลยว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น เพราะอย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าสภาพอากาศของโลกมีสภาพชุ่มชื้นสลับกับแห้งแล้งซ้ำๆ แสดงว่าเมื่อวงโคจรโลกถูกดึงให้ยืดออกจนถึงช่วงหนึ่งแล้ว พอดาวศุกร์และดาวพฤหัสบดีเคลื่อนห่างออกไป โลกจะถูกปล่อยและถอยกลับเข้าสู่วงโคจรเดิมเอง ซึ่งจากการคำนวนแล้วคาดว่าโลกจะถอยกลับสู่วงโคจรเดิมทุก 405,000 ปี วนเวียนแบบนี้เรื่อยมาอย่างน้อย 215 ล้านปีแล้ว
.

แล้วเพื่อนๆ ล่ะคะมีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง คิดว่าการเปลี่ยนแปลงไปของวงโคจรโลกจะส่งผลกระทบร้ายแรงอะไรต่อโลกเรามั้ย แล้วถ้าเกิดวันนึงวงโคจรของโลกไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมล่ะ มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพื่อนๆ สามารถคอมเม้นต์เข้ามาพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ eduHUB ได้เลยนะคะ และถ้าหากใครชื่นชอบบทความสาระดีดีอย่างนี้ ก็อย่าลืมกดไลก์และติดตามเฟซบุ๊กแฟนเพจ eduHUB ไว้ เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความและคลิปใหม่ๆ ของพวกเราด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ