วัตถุต่างดาวลึกลับใต้ทะเลบอลติก

ใต้ทะเลบอลติกทางตอนเหนือของประเทศยุโรป มีวัตถุลึกลับที่มีลักษณะแปลกประหลาด จนนักสำรวจใต้น้ำถึงกับต้องประหลาดใจ เพราะลักษณะของมันนั้นคล้ายคลึงกับวัตถุจากต่างดาวที่มีขนาดใหญ่ และมีรอยไถใต้ท้องทะเลเป็นทางยาว ว่าแต่ว่า วัตถุชนิดนี้มันคืออะไร และมันใช่วัตถุปริศนาจากต่างดาวหรือไม่ วันนี้พวกเรา eduHUB จะพาเพื่อนๆไปสำรวจที่บริเวณใต้ทะเลบอลติกกันว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่ก่อนจะไปรับชม อย่าลืมกด Like กด Share และกดติดตามด้วยนะคะ
.

ย้อนกลับไปเมื่อเกือบสิบปีก่อนได้มีนักสำรวจมหาสมุทรออกมาเปิดเผยถึงเรื่องราวการพบเจอวัตถุปริศนาที่อยู่ในใต้ทะเลบอลติก ทะเลบอลติกเป็นทะเลที่ตั้งอยู่ทางเหนือของทวีปยุโรปซึ่งจะมีอาณาเขตติดต่อกับหลายๆประเทศในทวีปยุโรป ซึ่งในแถบนี้เองเคยมีบางเรื่องเล่าที่ได้กล่าวไว้ว่าบริเวณทวีปยุโรปนั้นมีช่องทางการเดินทางของมนุษย์ต่างดาวมายังโลก และบริเวณทวีปนี้จะเป็นบริเวณที่พบเจอกับมนุษย์ต่างดาวหรือ UFO บ่อยๆ
.

ซึ่งคราวนี้ก็เช่นเดียวกัน เรื่องราวของวัตถุปริศนาที่นักสำรวจมหาสมุทรพบนั้น มีขนาดใหญ่โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 60 เมตร มีความสูง 3-4 เมตร มีรูปทรงกลม และพวกเขายังพบรอยลากเป็นทางยาวถึง 300 เมตร ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากการที่วัตถุปริศนานั้นไถไปกับพื้น เสมือนการลงจอดจากวัตถุที่เคลื่อนที่มาด้วยความเร็วสูง หรือว่านี่ จะเป็นยานอวกาศจากมนุษย์ต่างดาวกันแน่ ?
.

ถ้าเพื่อนๆคนไหนที่เคยดูหนังเรื่องสตาร์วอร์อาจจะเคยเห็นยานมิลเลนเนียม ฟอลคอน ที่มีลักษณะเป็นวงกลมและมีส่วนท้ายที่มีขาสองขา ซึ่งนักสำรวจชาวสวีเดนได้นำรูปภาพการค้นพบวัตถุปริศนาใต้น้ำนี้มาเทียบกับยานมิลเลนเนียม ฟอลคอน ของภาพยนตร์เรื่องสตาร์วอร์ และพบว่ามันมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันมากๆ
.

จึงยิ่งทำให้ผู้คนในตอนนั้นต่างปักใจเชื่อว่า วัตถุปริศนาชิ้นนี้อาจเป็นวัตถุจากนอกโลกที่ตกลงสู่พื้นโลกและดำดิ่งลงสู่ใต้ท้องทะเลด้วยความเร็วสูง และบางคนยังเชื่ออีกว่า บริเวณทะเลบอลติกนี้อาจเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างโลกและสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว นี่จึงเป็นหน้าที่ของนักสำรวจที่ต้องทำการพิสูจน์ให้ได้ว่าวัตถุปริศนานี้มันคืออะไรกันแน่ 
.

หลังจากเกิดข้อสมมติฐานหรือข้อสงสัยหลายอย่าง การสำรวจจึงต้องดำเนินการต่อไปเพื่อที่จะหาหลักฐานมาพิสูจน์ถึงที่มาของวัตถุปริศนาชิ้นนี้ เมื่อนักสำรวจลงไปสำรวจใต้ทะเลต่อก็พบกับสิ่งที่น่าประหลาดใจอีกอย่างหนึ่งคือ พวกเขาเจอการก่อตัวของหินที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มันเป็นหินที่เหมือนกับมนุษย์สร้างขึ้น
.

ซึ่งกองหินนั้นอยู่ในบริเวณปากหลุมของวัตถุปริศนานี้ และที่พิเศษกว่านั้นคือหินในกองนี้มีร่องรอยของเขม่าควันไฟอีกด้วย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้ให้ความเห็นว่าในบริเวณทะเลบอลติกนี้เองไม่ได้เคยมีประวัติเรื่องการระเบิดของภูเขาไฟ หรือการพบหินที่สามารถติดไฟได้เอง ดังนั้นจึงไม่น่าเป็นไปได้ที่กองหินที่พบเหล่านั้นจะเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ 
.

สเตฟาน ฮอจบอร์น หนึ่งในสมาชิกนักสำรวจใต้มหาสมุทรได้กล่าวว่า เขานั้นเองมีประสบการณ์ดำน้ำมามากกว่า 60 ปี และยังมีประสบการณ์ดำน้ำถึง 6,000 ครั้ง เขาไม่เคยเจอสิ่งที่แปลกประหลาดเท่าวัตถุปริศนานี้มาก่อน และยิ่งเขาเข้าใกล้วัตถุนี้เพื่อไขปริศนามากเท่าไร เขากลับไม่พบคำตอบ แต่กลับเจอปริศนาอื่นเข้ามามากยิ่งขึ้น
.

นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่าเขาพบความประหลาดอีกอย่างหนึ่งคือเมื่อเขานำอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์เช่นกล้องหรือโทรศัพท์ผ่านดาวเทียมเข้าไปใกล้กับบริเวณวัตถุปริศนานั้น อุปกรณ์เหล่านั้นมันจะไม่ทำงาน แต่ถ้าเคลื่อนตัวออกมาจากวัตถุปริศนานั้น อุปกรณ์ต่างๆก็จะกลับมาใช้งานได้ดังเดิม 
.

อย่างไรก็ตามการสำรวจในครั้งนั้นก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้อยู่ดีว่าสิ่งที่พวกเขาค้นพบนั้นคืออะไรกันแน่ บ้างก็ว่าอาจจะเป็นอุกกาบาต เรือดำน้ำ หรือที่น่ากลัวที่สุดก็คือยาวอวกาศของมนุษย์ต่างดาว ถึงแม้ว่าจะมีบางคนออกมาบอกว่า รูปร่างดังกล่าวที่ได้ถ่ายภาพมาอาจผ่านการบิดเบือนจากระบบโซนาร์แสกน จึงไม่ชัดเจนว่า มันเป็นรูปร่างนั้นจริงๆ แต่ยังไงหลายคนก็ยังปักใจเชื่อว่าวัตถุชิ้นนี้ไม่น่าจะมาจากโลกของเราแน่ๆ
.

อีกข้อสันนิษฐานหนึ่งที่น่าสนใจ คือบางคนได้บอกว่ามันไม่ใช่วัตถุหรือยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว แต่มันคือเครื่องจักรกลของชาวแอตแลนติส เมืองโบราณที่หายสาบสูญไปแล้ว ที่เมื่อก่อนเคยเจริญรุ่งเรืองและมีวัฒนธรรมรวมถึงอารยธรรมมากมายอยู่ใต้ท้องทะเล 
.

สำหรับทะเลบอลติกที่นอกจากจะเจอวัตถุปริศนานี้แล้วนั้น ใต้ทะเลแถบนี้ยังมีซากเรือที่จมและวัตถุมีค่าอื่นๆเต็มไปหมด แต่ใต้ทะเลแถบนี้มีอุปสรรคในการดำน้ำลงไปสำรวจหรือกู้สิ่งของต่างๆขึ้นมาเพราะมันมีกระแสน้ำที่เย็นมากๆ และทัศนวิสัยใต้น้ำก็ไม่ดีเท่าไรนัก และสำหรับการสำรวจวัตถุปริศนาชิ้นนี้ ก็ได้อาศัยภาพจากโซนาร์ สแกนใต้น้ำ แต่ก็สำรวจได้ไม่ทันไร ก็ขาดทุนทรัพย์ในการดำเนินการต่อ จึงต้องล่าถอยการสำรวจไปจนกลายเป็นภารกิจที่ค้างคาและยังหาคำตอบไม่ได้
.

แล้วเพื่อนๆละคะ คิดว่าวัตถุชนิดนี้คืออะไรกันแน่ ลองมาคอมเมนต์บอกพวกเราได้นะคะ สำหรับวันนี้ ก็ทิ้งเรื่องที่ค้างคาใจเพื่อนๆไปพร้อมๆกับพวกเรา และก่อนจะจบคลิปนี้ อย่าลืมกด  Like กด Share และกดติดตามด้วยนะคะ  แล้วเจอกันใหม่คลิปหน้า สวัสดีค่ะ