ตำนานเรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวยังคงเป็นอมตะ ไม่ว่าจะหยิบยกมาพูดถึงกันในยุคสมัยไหนก็ยังคงเป็นที่สนใจของมนุษย์โลกเสมอ เพราะว่าเรื่องราวของมนุษย์ต่างนั้นเป็นเรื่องราวที่เป็นปริศนาไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ว่ามันคือเรื่องจริงหรือไม่ อย่างเช่นเรื่องราวการพบเจอมนุษย์ต่างดาวในเมืองแฟลตวู้ด ซึ่งวันนี้พวกเรา eduHUB นำเรื่องราวราวเหล่านี้มาฝากเพื่อนๆกัน แต่ก่อนจะไปรับชมอย่าลืมกด Like กด Share และกดติดตามด้วยนะคะ
เรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายของมนุษย์โลกที่จะเฟ้นหาความจริงและมักจะตื่นเต้นเสมอถ้าเจอข่าวคราวอะไรที่เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว ซึ่งการค้นพบมนุษย์ต่างดาวนั้นไม่ได้เพิ่งจะมามีเบาะเเสการพบเจอในปัจจุบัน แต่มนุษย์เรานั้นมีการพบเจอมาตั้งแต่ในอดีตกันมาเนิ่นนานแล้ว
.
ย้อนกลับไปที่สมัย 14,000-400 ปีก่อนคริสต์กาล มนุษย์มีการค้นพบว่าเจอรูปปั้นประหลาด หรือเรียกว่า โดกุ รูปร่างน่าตาไม่ได้ออกแบบมาให้เหมือนมนุษย์ ซึ่งมันเป็นรูปปั้นน่าตาแปลกประหลาด โดยผู้คนต่างสงสัยว่าคนที่ปั้นในยุคสมัยนั้นมีแรงบันดาลใจและตัวอย่างในการปั้นมาจากไหน ซึ่งแน่นอนว่ามีคนบางกลุ่มพยายามโยงตุ๊กตาโดกุกับมนุษย์ต่างดาว
.
โดยพวกเขาได้ให้ความเห็นว่า รูปชุดเครื่องเเต่งกายของตุ๊กตาโดกุคล้ายคลึงกับชุดอวกาศ และตุ๊กตาตัวนี้ยังมีดวงตาที่กลมโต มีใบหน้ารูปหัวใจ แถมยังมีการใส่มงกุฎที่ดูเหมือนเสาอากาศ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับสิ่งมีชีวิตทรงปัญญามากๆ แต่แน่นอนว่านี่เป็นเพียงเเค่ความเชื่อของคนบางกลุ่ม และที่มาของตุ๊กตาโดกุก็ยังคงเป็นปริศนาว่าเขาปั้นขึ้นมาเลียนเเบบจากอะไร
.
นอกจากสมัยหลายพันปีก่อนคริสกาล ก็ยังมีสมัยอียิปต์ที่หลายคนเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวนั้นได้มีมาตั้งแต่ยุคสมัยนั้น เพราะจากสถาปัตยกรรมและจิตกรรมบนฝาผนังที่ทำให้คนบางคนนั้นคิดว่ามันน่าจะสื่อถึงมนุษย์ต่างดาว ในสมัยอียิปต์ ที่วัดเซติแห่งอะบีดอสนั้นมีภาพแกะสลักรูปร่างวัตถุคล้ายกับยานพาหนะบางอย่าง ซึ่งดูแล้วมันคล้ายๆกับเครื่องบินหรือเรือดำน้ำ ซึ่งแน่นอนว่าในสมัยนั้นมนุษย์เรายังไม่มีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยขนาดนั้น
.
นอกจากนี้ในคัมภีร์ต่างๆยังได้ระบุของการมาเยือนของเทพเจ้าที่มาพร้อมกับยานพาหนะที่เคลื่อนที่ในอากาศได้ จึงทำให้คนบางคนคิดว่าเทพเจ้าในคัมภีร์นั้นอาจจะหมายถึงมนุษย์ต่างดาว
.
และนี่ก็คือเรื่องราวส่วนหนึ่งในอดีตที่มนุษย์ได้นำเอาหลักฐานที่มีอยู่บนโลกมาจินตนาการว่ามันน่าจะเกิดจากมนุษย์ต่างดาวหรือว่ามันน่าจะประดิษฐ์ขึ้นมาเพราะมนุษย์ต่างดาว แต่นอกจากการคาดเดาจากวัตถุโบราณต่างๆที่เราพบ การเล่าต่อๆกันมาก็เป็นตำนานที่เรายังเอามาพูดกันจนถึงทุกวันนี้ มีตำนานการพบเจอมนุษย์ต่างดาวมากมายที่พบเจอในโลกตั้งแต่สมัยอดีต อย่างเช่นเรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวแห่งแฟลตวู้ดก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ทั่วโลกให้ความสนใจ โดยมันมีหลักฐานที่บันทึกเป็นเอกสารเก็บเอาไว้เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับพวกเราอีกด้วย
.
ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้นกับเด็ก 3 คนในเมืองแฟลตวู้ด รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเมื่อวันที่ 12 กันยายน 1952 เด็ก 3 คน มีชื่อว่า เอ็ดเวิร์ด เฟร็ด และทอมมี่ อายุประมาณ 10-13 ขวบกำลังวิ่งเล่นกันอยู่ เขาได้เห็นแสงประหลาดจากวัตถุบนท้องฟ้าวิ่งหายไปในฟาร์มของชายที่ชื่อว่า เบลเลย์ ฟิชเชอร์ พอพวกเด็กๆเห็นเหตุการณ์นั้นก็รีบวิ่งไปแจ้งให้เเม่พวกเขาทราบ และก็ได้เเจ้งเจ้าหน้าที่กองพิทักษ์ชาติให้ไปช่วยกันดูเหตุการณ์ประหลาดที่ฟาร์มของเบลเลย์
.
เมื่อพวกเขาไปถึงที่เกิดเหตุก็พบว่ามีหมอกควันหนาทึบ ซึ่งภายใต้หมอกควันนั้นเองเค้าสังเกตุว่ามีวัตถุที่คล้ายกับจานบินและมีสิ่งมีชีวิตที่รูปร่างเหมือนคนผสมกับหุ่นยนต์ มีดวงตาสีแดง ความสูงถึง 10 ฟุตหรือ 3 เมตร มีใบหน้าคล้ายรูปหัวใจ ซึ่งลักษณะใบหน้ารูปหัวใจนี้ก็ดันไปคล้ายกับตุ๊กตาโดกุ ที่เราได้บอกไปข้างต้น ลักษณะลำตัวเหมือนทำมาจากเหล็กกล้า มีสิ่งที่คล้ายกับผ้าคลุม คลุมช่วงล่างลำตัวไว้ บางคนบอกว่ามีแขน และบางคนก็บอกว่าไม่มีแขน มีนิ้วยาวและมีกรงเล็บที่น่ากลัว มันร้องเสียงประหลาดออกมา และมีหยดน้ำคล้ายน้ำมันซึ่งได้กลิ่นเหม็นไหม้โลหะ
.
ซึ่งคนที่ได้เห็นต่างสรุปกันว่านี่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลกเเน่ๆ เมื่อทั้งหมดนั้นเจอเหตุการณ์เช่นนี้จึงรีบไปแจ้งนายอำเภอของเมืองนั้นซึ่งระหว่างที่นายอำเภอกำลังเข้าไปตรวจสอบก็มีนักข่าวตามไปสัมภาษณ์เด็กๆถึงการพบเจอในครั้งนี้ ซึ่งเมื่อนายอำเภอไปถึง ไม่พบว่ามีวัตถุจานบินหรือสิ่งมีชีวิตประหลาดนั้นแล้ว แต่กลับพบรอยทางยาวบนพื้นที่ดังกล่าว และมีกลิ่นเหม็นไหม้ของโลหะคละคลุ้งไปทั่วบริเวณนั้น
แต่เรื่องราวประหลาดก็ไม่จบเพียงแค่นั้น เพราะเหล่าผู้พบเห็นในชุดแรกเมื่อเวลาผ่านมา 1 อาทิตย์พวกเขามีอาการแปลกๆ เช่น อาเจียน เจ็บท้อง และชักอย่างรุนแรง เมื่อไปพบเเพทย์ แพทย์ก็ไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่าเกิดจากอะไร
หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้มีการออกข่าวการพบเจอเหตุการณ์ประหลาดบนหนังสือพิมพ์ แต่ก็มีข่าวลือกันว่าข่าวนี้ได้ถูกปกปิดโดยเจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐอเมริกา ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้เหล่าพยานมักไม่พูดถึงเรื่องนี้กัน และบิดเบือนกันไปว่ามันอาจเป็นแค่ก้อนอุกกาบาต ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างแปลกประหลาดอย่างที่เขาได้ระบุไว้ในตอนแรก ซึ่งหลังจากนั้นเรื่องราวเหล่านี้ก็ไม่ถูกพูดถึงและก็เงียบไปโดยไม่มีใครได้ไปพิสูจน์อะไรต่อ เราจึงไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่เด็กๆและพ่อแม่เขาเจอนั้น มันคืออะไรกันแน่ มันคือมนุษย์ต่างดาวหรือมันเป็นเพียงแค่อุกกาบาตที่พวกเขาเข้าใจผิด
เรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวเเห่งเมืองแฟลตวู้ดก็มีเพียงเท่านี้ เเละนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่มีหลักฐานทางหนังสือพิมพ์มายืนยันเหตุการณ์ในช่วงนั้นว่ามีการพบเจอแต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ร้อยเปอร์เซ็นว่าการพบเจอนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เพื่อนๆละคะ มีเรื่องราวอะไรที่สามารถยืนยันได้ว่ามนุษย์ต่างดาวมีอยู่จริงบ้าง ลองมาคอมเมนท์บอกกับพวกเราได้เลยนะคะ เพื่อที่พวกเราจะได้ไปสรุปเรื่องราวต่างๆเหล่านี้มาฝากเพื่อนๆอีกครั้ง สำหรับวันนี้ก็มีเพียงเท่านี้ แต่ก่อนจะไปอย่าลืม กด Like กด Share และกดติดตามด้วยนะคะ