ระหว่างช่วงโควิดแบบนี้ เวลาเพื่อนๆ จะซื้ออะไรทีก็คงจะสั่งของจากออนไลน์เป็นหลักใช่มั้ยคะ ซึ่งถ้าหากเราได้สินค้าดีก็โชคดีไป แต่ถ้าเราเกิดได้ของมีตำหนิหรือเกิดโดนแม่ค้าโกงขึ้นมา เราก็อาจจะเกิดอาการหัวร้อนอยู่เหมือนกัน และวิธีที่เราจะโต้ตอบแม่ค้าได้ก็มีหลากหลาย ทั้งทักแชทไปต่อว่า เขียนคอมเม้นต์ด่าลงในเพจ หรือไม่ก็เขียนถ่ายรูปประจานพร้อมรีวิวโดยให้ดาวน้อยๆ
ถ้าหากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ในตอนที่ยังไม่มีการขายของออนไลน์ หากเราได้รับสินค้าที่ไม่ได้มาตราฐาน เราก็อาจจะต้องเขียนจดหมายต่อว่าแล้วติดสแตมป์ส่งไปถึงบริษัทแทน แต่นั่นก็ไม่ใช่ยุคเริ่มแรกที่เราเริ่มมีการค้าขายกัน มนุษย์เรานั้นเริ่มมีการค้าขายกันมานานมากแล้ว โดยในยุคแรกเราจะใช้วิธี “แลกเปลี่ยน” สิ่งของกันแทน เช่น เอาไก่มาแลกหมู เอาปลามาแลกข้าวสาร แต่เนื่องจากบางครั้งคนที่เราอยากแลกของกับเขา เขาก็ไม่อยากแลกกับเราด้วย ดังนั้นจึงได้เกิดเป็น “เงินตรา” ขึ้นมาเพื่อเป็นสื่อกลางในการแลกของ
แล้วเพื่อนๆ เคยสงสัยหรือไม่ว่าในยุคที่เรายังไม่มีที่ทำการไปรณีย์ ไม่มีจดหมาย ไม่มีสแตมป์ ถ้าหากลูกค้าซื้อของแล้วได้สินค้าห่วยแตกขึ้นมา ลูกค้าจะทำอย่างไร? ลูกค้าจะต้องเดินไปด่าพ่อค้าแม่ค้าถึงหน้าบ้านมั้ย หรือลูกค้าต้องอดทนเก็บความเจ็บใจเอาไว้หรือเปล่า
คำตอบคือ จริงๆ แล้วในตอนนั้นลูกค้าเองก็เขียนจดหมายไปด่าพ่อค้าแม่ค้าเหมือนที่เราๆ ทำกันนี่แหละค่ะ และนี่ก็คือเรื่องของจดหมายต่อว่าจากลูกค้าที่เก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์! แต่จดหมายที่ว่านี้จะหน้าตาเป็นอย่างไรนั้น เราจะตามไปดูพร้อมกันนะคะ
จดหมายต่อว่าที่เก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์นี้มาจากยุคเมโสโปเตเมีย ถูกเขียนขึ้นเมื่อประมาณ 1750 ปีก่อนคริสตกาล หรือประมาณ 3770 ปีก่อน มันถูกค้นพบในเมืองอูร์ ที่มีซิกกุรัต (Ziggurat) หรือก็คือสิ่งก่อสร้างลักษณะคล้ายพีระมิดแบบขั้นบันไดที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของโลก
เนื้อความในจดหมายเป็นเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่มีชื่อว่า “Nanni” เขียนถึงคนจัดหาของหรือซัพพลายเออร์ที่ชื่อ “Ea-nasir” โดย Nanni ได้เขียนต่อว่าเรื่องที่ Ea-nasir จงใจส่งทองแดงคุณภาพต่ำมาย้อมแมวขายในราคาสูงให้กับ Nanni แถมนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกด้วย! เพราะ Ea-nasir เคยทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้งจนมีจดหมายด่าจากลูกค้าเก็บไว้มากมาย
อย่างไรก็ตาม โดนหลอกขายของคุณภาพต่ำว่าเจ็บปวดแล้ว แต่ที่ทำให้ Nanni ปรี๊ดแตกจนต้องเขียนจดหมายไปด่าคือการที่ Ea-nasir ได้ปฏิบัติกับคนรับใช้ของเขาที่ถูกส่งตัวไปจ่ายค่าทองแดงอย่างดูถูกเหยียดหยาม เมื่อดูถูกลูกน้องก็เหมือนดูถูกเจ้านายไปด้วย! Nanni เลยลงมือเขียนจดหมายเป็นก้อนดินเหนียวสลักด้วยอักษรลิ่ม และเพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ถึงความเกรี้ยวกราดนี้ เราจึงขออนุญาตใช้คำหยาบคายกันสักเล็กน้อยเพื่ออรรถรสในการรับชมนะคะ ซึ่งในจดหมายก็มีใจความว่า
“มึงคิดว่ากูเป็นคนยังไงถึงได้ดูถูกกูอย่างงี้! กูส่งสุภาพบุรุษคนหนึ่งเป็นคนส่งสารแทนตัวพวกกูไปพร้อมกับเงินในกระเป๋าไปให้มึง แต่มึงปฏิบัติกับกูด้วยความดูแคลนโดยการส่งพวกเขากลับมามือเปล่าหลายรอบแล้ว แถมยังให้คนของกูเดินผ่านแดนศัตรูกลับมาอีก!”
ในจดหมายยังเขียนต่ออีกด้วยว่า “มีพ่อค้าคนไหนอีกมั้ยที่ปฏิบัติกับกูแบบนี้? มีแต่มึงนี่แหละที่ดูถูกคนส่งสารของกู! มึงทำกับกูแบบนี้ได้ไง กูต้องการเงินคืนเต็มจำนวน(โว้ย) แล้วมึงรู้ไว้ด้วยว่าต่อจากนี้ไป กูจะไม่ยอมรับทองแดงที่ไม่ได้มาตราฐานจากมึงอีก กูจะเลือกโลหะทุกแท่งด้วยตัวกูเอง และกูจะใช้สิทธิ์ของกูในการปฏิเสธสินค้า เพราะมึงปฏิบัติกับกูด้วยความดูถูกเหยียดหยาม”
จดหมายหินเหนียวนี้เป็นจดหมายส่วนหนึ่งที่เก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์บริติชแต่ไม่ได้ถูกนำมาจัดแสดง ซึ่งภาษาที่ใช้ในจดหมายเป็นภาษาแอกคาเดียน หรือก็คือภาษาเซมิติกที่เก่าแก่ที่สุดที่เรารู้จักกัน (ภาษาดังกล่าวมีที่มาจากตะวันออกกลางรวมถึงภาษาฮิบรู ภาษาอาหรับ และภาษาอราเมอิก) จดหมายต่อว่านี้มีขนาดแค่ 11.6 x 5 เซนติเมตรเท่านั้น แต่ถึงขนาดจะเล็กไปหน่อย แต่มันก็อัดแน่นไปด้วยความเกรี้ยวกราดของคนเป็นลูกค้าเอาไว้แน่น จนไม่ต่างอะไรจากรีวิวด่าร้านขายของห่วยๆ ที่พวกเราเขียนกันอยู่ทุกวันนี้เลย
เห็นมั้ยคะว่าการโกงมันมีอยู่ในทุกยุคทุกสมัยจริงๆ จนถึงขนาดที่มีการเขียนจดหมายต่อว่ากันมาตั้งแต่สมัยยุคเมโสโปเตเมียกันเลยทีเดียว และด้วยความเกรี้ยวกราดของลูกค้า ต่อให้การเขียนจดหมายในยุคนั้นจะยากลำบากขนาดไหน เราก็ยังอุตส่าห์สลักตัวอักษรลิ่มลงแท่งดินเหนียวเพื่อส่งไปด่ากันได้
แต่สุดท้ายแล้ว Nanni ได้เงินคืนมั้ย แล้วพ่อค้าหน้าด้านอย่าง Ea-nasir จะเลิกโกงทองแดงชาวบ้านไปเลยหรือเปล่าก็ไม่มีใครทราบได้ ดังนั้นก่อนที่เพื่อนๆ จะซื้ออะไร ไม่ว่าจะจากช่องทางออนไลน์ หรือเดินไปซื้อที่ร้านค้า ก็ตรวจเช็คสินค้าและตัดสินใจให้ดีก่อนซื้อทุกครั้งด้วยนะคะ เพราะในบางครั้งอ้อยเข้าปากช้างไปแล้ว จะมาโวยวายกับพ่อค้าแม่ค้าทีหลังก็คงจะทวงคืนความยุติธรรมได้ยาก
แล้วเพื่อนๆ มีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้กันบ้างคะ ถ้าหากชื่นชอบบทความสาระดีดีอย่างนี้ก็คอมเม้นต์เข้ามาบอกกันได้นะคะ พวกเราจะได้นำเรื่องราวที่ทั้งสนุกและได้ความรู้แบบนี้มาให้เพื่อนๆ ได้ติดตามกันอีก และสุดท้ายนี้ก็อย่าลืมกดติดตามและกดกระดิ่งช่อง eduHUB เพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเรากันด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ