ดาวต้นกำเนิดมนุษย์ต่างดาว

เป็นระยะเวลามานานมากแล้วที่มนุษย์เราให้ความสนใจกับมนุษย์ต่างดาว และยิ่งในปัจจุบันเริ่มมีหลักฐานเกี่ยวกับการมาเยือนของมนุษย์ต่างดาว รวมถึงการทีมีคนออกมาแสดงตนว่าเคยพูดคุยกับมนุษย์ต่างดาวมาแล้วยิ่งตอกย้ำการมีอยู่จริงของมนุษย์ต่างดาวเข้าไปอีก แล้วเพื่อนๆสงสัยไหมละว่า มนุษย์ต่างดาวที่หลายคนอ้างว่าพบเจอนั้น มันมาจากดาวไหน ใช่กาแล็กซี่เดียวหับเราหรือไม่

เรื่องราวของมนุษย์ต่างดาว มนุษย์อย่างพวกเรานั้นได้รับรู้มาตั้งแต่ในอดีตแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่สมัยการก่อสร้างพีระมิด หรือเหตุการณ์อื่นๆที่มนุษย์เราตั้งข้อสงสัยว่าเกิดขึ้นจากมนุษย์ต่างดาว มีหลากหลายแหล่งข่าวและหลากหลายคนที่จินตนาการรูปร่างน่าตาของมนุษย์ต่างดาว รวมไปถึงลักษณะของยานพาหนะของมันจนมีคนนำไปทำเป็นภาพยนตร์หรือการ์ตูน ซึ่งการนำเสนอเรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวเหล่านี้ยิ่งย้ำเตือนการมีอยู่จริงของมนุษย์ต่างดาวขึ้นไปอีก

ต่อมาเริ่มมีผู้คนที่อ้างว่าเขาได้พบการปรากฏตัวของมนุษย์ต่างดาว บ้างก็ว่าเห็นดวงไฟลึกลับ บ้างก็ว่าเห็นวัตถุบันท้องฟ้าที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วมากๆ และบางคนถึงกับออกมายอมรับว่าตัวเขานั้นได้เคยพูดคุยกับมนุษย์ต่างดาว และยังบอกอีกว่ามนุษย์ต่างดาวนั้นอาศัยปะปนอยู่กับมนุษย์โลกของเรามานานแล้ว แต่หลายสิ่งหลายอย่างที่มีการเปิดเผยมานั้น ก็มีบางกลุ่มที่เชื่อและมีบางกลุ่มที่ไม่เชื่อ ซึ่งกลุ่มที่เชื่อก็พยายามที่จะงัดหลักฐานทุกอย่างที่มีไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย ภาพวิดีโอหรือเสียง แต่หลักฐานเหล่านั้นยังไม่เพียงพอต่อการที่จะทำให้พวกที่ไม่เชื่อ มาเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวนั้นมีอยู่จริง

อย่างไรก็ตามในโลกของทางวิทยาศาสตร์จะต้องได้รับการพิสูจน์ และสามารถยืนยันได้เท่านั้น ถึงจะเป็นที่ยอมรับในหมู่คนทั่วไป จึงเป็นการบ้านที่สำคัญของนักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์ที่จะต้องพยายามหาคำตอบโดยการส่งยานสำรวจหรือส่งสัญญาณคลื่นวิทยุไปสำรวจสิ่งที่น่าสงสัยในห้วงอวกาศ การสำรวจเกิดขึ้นมาแล้วหลายสิบปี ตั้งแต่การส่งยานอวกาศออกไปลำพัง และต่อมามีการส่งยานอวกาศที่มีนักบินอวกาศขึ้นไปด้วย

ขอขอบคุณภาพประกอบจากเว็บไซต์ mashable.com

แต่การสำรวจต่างๆเหล่านี้ก็ยังวนเวียนได้แค่ระบบสุริยะ ในระบบกาแล็กซี่ทางช้างเผือกเท่านั้น ยังไม่มียานลำไหน ทะยานไปไกลกว่ากาแลกซี่ทางช้างเผือกได้เลย ดังนั้นการสำรวจระยะไกลที่ไกลเกินว่ากาแล็กซี่ที่เราอยู่จะต้องใช้การสำรวจแบบสัญญาณวิทยุ จึงจะสามารถรับรู้ความเป็นไปในอวกาศ

การส่งสัญญาณวิทยุนั้นเป็นวิธีการนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งใช้ในการสำรวจและค้นหามนุษย์ต่างดาว เนื่องจากการสำรวจดาวดวงต่างๆในระยะที่ใกล้กับโลก ยังไม่มียานลำไหนพบการมีอยู่ของมนุษย์ต่างดาว ซึ่งเมื่อประมาณหลายปีมาแล้วมีนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งที่ได้ทำการส่งสัญญาณวิทยุ เพื่อค้นหามนุษย์ต่างดาวด้วยความหวังที่ว่าพวกเขาจะพบสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว โดยสัญญาณวิทยุนั้นได้ส่งออกไปไกลถึงกาแล็กซี่อื่นนอกกาแล็กซี่ทางช้างเผือก จากการสำรวจดังกล่าวนักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นได้ทำการประเมินและวิเคราะห์คุณสมบัติของดาว เช่นอายุของดาว ปริมาณธาตุในชั้นบรรยากาศ ซึ่งพบว่าเขาเจอดาวเคราะห์เป็นหมื่นๆดวง ซึ่งอยู่ในระบบของดาวฤกษ์ที่คาดว่าสิ่งมีชีวิตสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้

ขอขอบคุณภาพประกอบจากเว็บไซต์ newscientist.com

จากดาวเคราะห์ที่นักวิทยาศาสตร์พบและคาดว่าน่าจะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่จำนวน 17,000 ดวงนั้น นักวิทยาศาสตร์ได้คัดเลือกออกมาจำนวน 5 ดวง ซึ่งน่าจะมีแนวโน้มที่จะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ การที่นักวิทยาศาสตร์ต้องสำรวจดาวดวงต่างๆเหล่านี้ไม่เพียงแค่เขาอยากรู้เรื่องมนุษย์ต่างดาวอย่างเดียวเพียงเท่านั้น แต่เขาต้องการศึกษาถิ่นที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ เพื่อที่จะให้มนุษย์ย้ายถิ่นฐานไปอยู่เมื่อโลกใบนี้ของเราไม่มีสภาพที่จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้

หน่วยงานเซติ หรือ SETI : Search for Extraterrestrial Intelligence ซึ่งเป็นสถาบันเพื่อการค้นคว้าวิทยาศาสตร์ เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการสำรวจสิ่งมีชีวิตในจักรวาลด้วยการตรวจหาคลื่นวิทยุจากหอดูดาวทั่วโลก และนักวิทยาศาสตร์ก็จะมาที่เซตินี้เพื่อทำการสำรวจ โดยนักวิทยาศาสตร์ได้มุ่งประเด็นการสำรวจไปที่ดวงดาวที่มีอายุอย่างน้อย 3,000 ล้านปี ซึ่งเป็นเวลาที่เทียบกับอายุการเกิดของโลก เพราะว่าดาวที่มีสิ่งมีชีวิตต้องเป็นดาวที่มีระยะเวลากำนเนดที่ยาวนานพอที่จะให้สิ่งมีชีวิตในดาวดวงนั้นได้ก่อร่างสร้างอารยธรรมต่างๆมากมาย

ขอขอบคุณภาพประกอบจากเว็บไซต์ medium.com

นอกจากนี้ยังต้องดูอีกว่าดาวดวงนั้นมีธาตุเหล็กอยู่ในชั้นบรรยากาศนั้นหรือไม่ รวมไปถึงความหนาแน่นของมวลสาร ดาวที่มีน้ำ ความห่างไกลกับดาวฤกษ์ เพราะหากว่าอยู่ใกล้ดาวฤกษ์เกินไปก็จะร้อน และถ้าหากไกลไปก็จะหนาวเย็น สำหรับดาวที่นักวิทยาศาสตร์ได้คัดเลือกเพราะว่ามันมีคุณสมบัติกังที่ได้พูดมา ได้แก่ ดาวเบตาซีวีเอ็น ดาวเอชดี 10307 ดาวเอชดี 211415  ดาว 18 สโก ดาว 51 ปิกาซัส

สำหรับดาวเบตาซีวีเอ็น เป็นดาวที่อยู่ห่างจากโลกราว 26 ปีแสง และมีลักษณะเหมือนดวงอาทิตย์ ขนาดใหญ่และมีอายุที่ยาวนาน ก็คาดว่าน่าจะเป็นดาวที่เป็นต้นกำเนิดของมนุษย์ต่างดาว ต่อมาคือดาวเอชดี 10307 ซึ่งเป็นดาวในระบบสุริยะเหมือนกับโลก อยู่ห่างออกไป 42 ปีแสงไกลกว่าดาวเบต้าซีวีเอน โดยมีมวลสาร อุณหภูมิ และโลหะเกือบคล้ายกับดวงอาทิตย์ และยังมีดาวบริวารอีกหนึ่งดวง ต่อมาคือ ดาวเอชดี 211415 มีโลหะเป็นองค์ประกอบในปริมาณครึ่งหนึ่งของดวงอาทิตย์ มีอุณหภูมิที่เย็นกว่าดวงอาทิตย์นิดหน่อย และอยู่ไกลกว่าเอชดี 10307 เล็กน้อย  ดาว 18 สโก (18 Sco) อยู่ในกลุ่มดาวแมงป่อง มีลักษณะใกล้เคียงกับดวงอาทิตย์จนถูกเรียกว่าเป็นคู่แฝดของดวงอาทิตย์

ขอขอบคุณภาพประกอบจากเว็บไซต์ phys.org

ท้ายสุดดาว 51 ปิกาซัส (Pegasus 51) ซึ่งเป็นที่มนุษย์เรานั้นรู้จักกันดี โดยในปี 1995 นักดาราศาสตร์ได้รายงานว่า พวกเขาได้ตรวจพบดาวเคราะห์ดวงแรกเหนือระบบสุริยะ โคจรอยู่รอบดาวฤกษ์ และไม่นานนักดาราศาสตร์ก็พบวัตถุที่คล้ายกับดาวพฤหัสในบริเวณเดียวกันอีกด้วย ดาวต่างๆที่นักดาราศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบและคาดการณ์จากคุณสมบัติต่างๆว่ามันน่าจะมีสิ่งมีชีวิต และสิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้อยู่ในโลกของเรา เราจะเรียกมันว่า “มนุษย์ต่างดาว” แต่นี่ก็เป็นเพียงแค่การสำรวจผ่านสัญญาณวิทยุ และคิดว่าอีกไม่นานมนุษย์เราน่าจะพัฒนาเทคโนโลยีให้สามารถไปสำรวจและถ่ายภาพให้เรากลับมาเป็นหลักฐาน ให้มนุษย์โลกได้รับรู้และยืนยันความมีอยู่จริงของสิ่งมีชีวิตนอกโลก

และนี่คือเรื่องราวของดาวทั้ง 5 ดวงที่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามันเป็นดาวที่กำเนิดมนุษย์ต่างดาวและเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตนอกโลก เพื่อนๆคิดว่า จะมีดาวดวงไหนอีกไหมที่น่าจะมีมนุษย์ต่างดาว และในอนาคตจะมีหลักฐานอะไรที่มายืนยันพวกเราว่า มนุษย์ต่างดาวนั้นมีอยู่จริง วันนี้พวกเรา eduHUB ก็มีเรื่องเรื่องราวมาฝากเท่านี้ ก่อนจะไป อย่าลืมกดติดตามและกดกระดิ่งช่อง eduHUB กันด้วยนะคะ