
ในปี 2020 นี้เองโลกเราเจอกับเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกของเราตั้งแต่ช่วงต้นปี เราเจอทั้งภัยพิบัติทางธรรมชาติ เจอทั้งโรคระบาด และเจอสงคราม แต่แน่นอนว่าภายใต้ข่าวร้ายที่เราได้รับมาตลอดในช่วงต้นปี 2020 ก็ยังคงมีข่าวดีที่จะเกิดขึ้น คือโครงการ Mars 2020 โครงการสำรวจดาวอังคารของนาซ่าที่จะส่งยานอวกาศสำรวจนั้นขึ้นไปดาวอังคารในปีนี้
จากในอดีตจนถึงปัจจุบันนาซ่าได้พัฒนาและสร้างยานอวกาศที่ใช้ในการสำรวจดาวอังคารมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยเป้าหมายหลักคือการสร้างถิ่นฐานบนดาวอังคารและการให้มนุษย์ไปสร้างอาณานิคมบนดาวอังคารได้ สำเร็จ ในปี 2020 นี้เองก็เป็นปีที่นาซ่าได้วางแผนไว้ว่าจะนำยานสำรวจ Mars 2020 ขึ้นไปสำรวจดาวอังคารเช่นเดียวกัน

ที่ผ่านมานั้นไม่ว่าจะเป็นยาน Insight ยานคิวริออซิตี้ ที่ไปทำการสำรวจของนาซ่าโดยมีเป้าหมายในการสำรวจดินรวมทั้งเก็บตัวอย่างดินมาวิเคราะห์และส่งข้อมูลกลับมายังโลก เนื่องจากนาซ่ามีความคิดว่าส่วนประกอบของดินนั้นน่าจะคือคำตอบของทุกอย่าง เพราะว่าดินโดยทั่วไปจะมีส่วนประกอบทั้ง อินทรียวัตถุ อนินทรีย์วัตถุ น้ำ และอากาศ หากองค์ประกอบเหล่านี้ในดินของดาวอังคารก็แสดงว่า ดาวอังคารนั้นมีน้ำ มีออกซิเจน และมีสิ่งมีชีวิต
ในครั้งนี้ก็เช่นกันแต่ปรับเปลี่ยนเป้าหมายของการสำรวจจากดินไปเป็นอย่างอื่น โดย ยาน Mars 2020 จะถูกส่งไปดาวอังคารเพื่อทำการสำรวจน้ำและจุลินทรีย์ที่มีอยู่บนดาวอังคาร เพราะเชื่อว่าน้ำคือต้นกำเนิดของการอยู่รอดของสิ่งมีชีวิต และถ้าหากพบน้ำบนดาวอังคารเรื่องการไปใช้ชีวิตอยู่บนดาวอังคารก็ไม่น่ายาก

สำหรับยาน Mars 2020 เป็นยานของนาซ่าภายใต้โครงการ NASA’s Mars Exploration Program (MEP) ซึ่งเป็นโครงการที่จะสร้างยานสำรวจไปสำรวจที่ดาวอังคารโดยเฉพาะ เพื่อที่จะต่อยอดในอนาคตนในการนำมนุษย์ขึ้นไปอยู่ในดาวอังคาร เรียกได้ว่าเป็นโครงการที่สำรวจเพื่อปูทางการไปสร้างอาณานิคมบนดาวของมนุษย์ ยาน Mars 2020 มีกำหนดจะขึ้นบินและเดินทางไปสำรวจดาวอังคารในเดือนกรกฎาคม ปี 2020 และคาดว่าน่าจะถึงในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2021
โดยครั้งนี้ภารกิจของ Mars 2020 จะศึกษาสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่บนดาวอังคารและแหล่งน้ำ ซึ่งยานสำรวจที่จะถูกปล่อยจากยานไปลงจอดบนดาวอังคารนั้นจะออกแบบมาคล้ายกับยานคิวรีออซิตี้ โดยมีความยาวประมาณ 10 ฟุต ความกว้างประมาณ 9 ฟุต สูง 7 ฟุต และหนักประมาณ 1,050 กิโลกรัม และยานสำรวจลำนี้ก็จะถูกออกบบมาเพื่อควบคุมอุณหภูมิในในตัวเครื่องให้สามารถทนต่ออุณหภูมิที่แปรปรวนได้ ทั้งในสภาวะที่ร้อนจัดและหนาวจัด จะมีกล้องติดบริเวณที่ส่วนหัวของยานซึ่งอยู่ในตำแหน่งระดับสายตาของมนุษย์

เมื่อยานลำนี้ได้ไปสำรวจและส่งภาพมา ภาพก็จะเหมือนมุมมองที่มองจากมนุษย์ มีการเพิ่มสมองของยานสำรวจด้วยคอมพิวเตอร์ที่เอาไว้สร้างแผนที่จากการประมวลของภาพ นอกจากนี้ยังมีแขนและมือที่จะใช้ในการสำรวจอีกด้วย สำหรับการขับเคลื่อนรถสำรวจนี้นั้นมีซอฟต์แวร์นำทางอัตโนมัติ มีล้อที่ทนทาน ขับเคลื่อนได้ประมาณ 650 ฟุต ต่อวัน และวิ่งได้นานถึง 10 ชั่วโมงต่อวัน
เนื่องจากภารกิจในครั้งนี้ Mars 2020 จะทำการสำรวจจุลินทรีย์และแหล่งน้ำ นาซ่าจึงต้องวิเคราะห์ว่าจะให้ Mars 2020 นั้นลงจอดที่บริเวณไหน ซึ่งจากการศึกษาด้วยยานสำรวจหรือดาวเทียมในอดีตที่ผ่านมานั้นนาซ่าได้วิเคราะห์ว่ามีพื้นที่อยู่ 3 จุดบนดาวอังคารที่น่าสนใจเพราะมีประวัติว่าบริเวณต่างๆเหล่านั้นเคยมีน้ำอยู่ ได้แก่

1. Columbia Hills ใน Gusev Crater เป็นบริเวณที่ตั้งของแหล่งน้ำพุร้อน ซึ่ง Spirit rover ของนาซ่าได้ค้นพบมาก่อน ด้วยความที่มันเป็นแหล่งน้ำพุร้อนจึงทำให้เราคาดว่ามันน่าจะมีจุลินทรีย์อยู่ในบริเวณนั้นด้วย
2. The Jezero Crater เป็นบริเวณที่มีการคาดว่าในอดีตอาจเคยมีน้ำอยู่ เพราะพบว่ามีร่องรอยของแม่น้ำ ทะเลสาบ ซึ่งในบริเวณนี้เองอาจมีจุลินทรีย์ที่หลงเหลืออยู่ตั้งแต่สมัยที่ดาวอังคารเคยมีน้ำ
3. Northest Syrtis เป็นบริเวณที่พบร่องรอยของภูเขาไฟ ซึ่งนักวิทยาศาสตรืเชื่อว่าอาจพบจุลินทรีย์ที่เติบโตในบริเวณนี้เพราะมีทั้งแหล่งที่คิดว่าเป็นแหล่งน้ำ และแหล่งภูเขาไฟที่มีแร่ธาตุที่จุลินทรีย์ต้องการ

ทั้ง 3 บริเวณนี้เป็นบริเวณที่น่าสนใจที่จะให้ Mars 2020 ไปลงจอดและทำการสำรวจเพื่อนำตัวอย่างมาวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ที่สิ่งมีชีวิตจะสามารถดำรงอยู่ ได้ในอนาคต และแล้วนาซ่าก็ได้มีมติเลือก The Jezero Crater เป็นที่ลงจอดของ Mars 2020 บริเวณนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 50 กิโลเมตร และภาพถ่ายทางกายภาพของบริเวณนี้ก็มีลักษณะคล้ายดินโคลน
ในการไปสำรวจของ Mars 2020 นอกจากจะมีการสำรวจสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคารแล้วตัวยานลำนี้ยังมีความพิเศษตรงที่สามารถนำชื่อของ ทุกๆคนบนโลกขึ้นไปถึงดาวอังคารด้วย โดยนาซ่าได้เปิดให้คนทุกคนบนโลกลงชื่อ เพื่อส่งชื่อของเราเดินทางไปพร้อมกับยาน Mars 2020 โดยให้ทุกคนนั้นสามารถลงชื่อในเว็บไซต์ของนาซ่า ซึ่งชื่อของทุกคนนั้นจะถูกฝังอยู่ในชิพขนาดเล็กๆและนำไปติดในตัวยาน Mars 2020 ที่เป็นรถโรเวอร์ นั่นหมายความว่า ชื่อของเราไม่เพียงติดขึ้นไปยังอวกาศระหว่างการเดินทางเพียงเท่านั้นแต่ยังติดลงไปกับรถสำรวจ ที่จะไปแตะพื้นผิวของดาวอังคารจริงๆ

ความพิเศษมากกว่านี้ก็คือ ใครที่ลงชื่อแล้ว จะได้รับ Boarding pass เป็นที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งชื่อของคุณได้ขึ้นไปดาวอังคาร ซึ่งตอนนี้เอง มีคนไปลงชื่อ 10,932,295 คนแล้ว เอาน่า ถึงตัวเราจะยังขึ้นไปบนดาวอังคารไม่ได้ ก็ขอฝากชื่อขึ้นไปกับ Mars 2020 ก็เพียงพอแล้ว
และนี่คือ Mars 2020 ยานสำรวจของนาซ่าที่จะส่งขึ้นยังดาวอังคารในปีนี้ ซึ่งอย่างที่บอกไป ปีนี้เราเจอเรื่องหนักๆมามากมาย นี่อาจจะเป็นเรื่องดีๆเรื่องแรกที่จะเกิดขึ้นก็เป็นไปได้ หากการสำรวจครั้งนี้สำเร็จและผลของการสำรวจคือพบสิ่งมีชีวิตและน้ำบนดาวอังคาร ก็จะทำให้มนุษย์โลกของเราใจชื้นขึ้นมาว่า เราอาจจะทันเห็น การนำมนุษย์ไปอยู่ในดาวอังคารภายในช่วงชีวิตของเรา เพื่อนๆคนไหนอยากไปดาวอังคารบ้าง และมีเพื่อนๆคนไหนได้ไปลงชื่อกับ ยาน Mars 2020 ที่เว็บไซต์ของนาซ่ากันมาบ้างแล้ว อย่าลืมเอา Boarding pass มาอวดกันนะคะ และเชื่อว่าโครงการอื่นๆในอนาคตของนาซ่าก็อาจจะให้มีการลงชื่อแบบนี้อีก
ยังไงเพื่อนๆลองติดตามทางเว็บไซต์ของนาซ่าให้ดีๆนะคะ และในวันนี้เรื่องราวของ Mars 2020 ที่เรานำมาฝากเพื่อนๆก็มีเท่านี้ และนอกจากนี้เรายังมีคลิปอื่นๆที่น่าสนใจเกี่ยวกับดาวอังคารและข่าวสารด้านอวกาศต่างๆมากมายให้เพื่อน ๆได้รับชมกัน สำหรับวันนี้อย่าลืมกดติดตามและกดกระดิ่งช่อง eduHUB กันด้วยนะคะ