
4 สัตว์โลกผู้บุกเบิกอวกาศ
เพื่อนๆหลายๆคนคงคิดว่า มีแต่มนุษย์เท่านั้นที่จะสามารถออกไปนอกอวกาศได้ แต่เพื่อนๆรู้หรือไม่ว่าก่อนที่มนุษย์จะได้ไปเยือนอวกาศนั้น ยังมีสัตว์โลกตัวเล็กตัวน้อยเดินทางออกไปนอกโลกมาแล้วเหมือนกัน แถมยังเป็นผู้บุกเบิกก่อนมนุษย์อีกต่างหาก และยังสมารถนำความรู้อันมีค่ามาให้นักวิทยาศาสตร์ได้ทดลองและปรับปรุงสิ่งใหม่ๆ
1.สัตว์ของสองพี่น้องตระกูล Montgolfier
2พี่น้องตระกูล Montgolfier ผู้ที่ทำให้ความฝันของมนุษย์ในการบินขึ้นไปบนท้องฟ้าสำเร็จเป็นพวกแรก โดยอาศัยยานพาหนะที่เรียกว่าบัลลูน พี่น้องตระกูลมองต์โกลฟิเย ได้แก่ เอเตียนและโจเซฟ มองต์โกลฟิเย Etienne-Joseph Montgolfier สองพี่น้องชาวฝรั่งเศสได้ประดิษฐ์ลูกบัลลูนขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1783 ทั้งคู่ใช้ลมร้อนหรือไอร้อนโดยใช้หม้อไฟผูกเข้าข้างใต้ลูกบัลลูนไอร้อนซึ่งเบากว่าอากาศจะดันลูกบัลลูนให้ลอยขึ้นไป บัลลูนลอยไปได้ราว 1 ไมล์กว่าก่อนจะตกลงสู่พื้น นับเป็นความสำเร็จครั้งแรกของมนุษย์ก่อนที่จะมีการดัดแปลงไปเป็นพาหนะอย่างอื่นๆเช่น เครื่องร่อนจนมาถึงเครื่องบินในที่สุด
นี่ถือเป็นการทดสอบสำรวจฟากฟ้าครั้งแรกๆ ของโลก โดยนักประดิษฐ์บอลลูนตระกูล Montgolfier พวกเขาไม่อยากก่ออาชญากรรมโดยการนำคนขึ้นไปบนนั้นเพราะพวกเขาอาจตายได้ พวกเขาจึงนำ แกะ, ไก่ และเป็ดใส่ไว้ในนั้นแทน แต่น่าเสียดายที่มันไปไม่ถึงอวกาศ

2. Albert II
คือลิงตัวแรกที่สามารถทะลุผ่าน Karmin Line ซึ่งเป็นเส้นพรมแดนระหว่างชั้นบรรยากาศโลกกับอวกาศ แต่ก่อนหน้าที่ได้มี Albert I แต่เป็นที่น่าสงสาร เพราะเมื่อ Albert I เดินทางพ้นจากชั้นบรรยากาศของโลก มันก็หายใจไม่ออกและเสียชีวิตในที่สุด แต่ตัวที่สองนี้ ตัวเลือกก็ยังคงเป็นเจ้าลิง สัตว์ที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์มากที่สุด แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายเช่นกัน เพราะถึงแม้มันจะรอดผ่านจุดดังกล่าวไปได้ แต่มันก็ขาดใจตายระหว่างเดินทางกลับถึงโลก

3.Laika (ไลก้า)
คือสุนัขตัวแรกที่ได้โคจรรอบโลกในปี 1957 นี่ถือเป็นเรื่องฮือฮาในยุคนั้นเมื่อรัสเซียส่ง ไลก้า ไปบุกเบิกการโคจรรอบโลก แต่ไม่มีวันได้กลับมา ไลก้า เป็นสุนัขจรจัดเพศเมีย ที่ถูกเก็บมาจากข้างถนนในกรุงมอสโก เมืองหลวงของโซเวียตในขณะนั้น เพียงแค่สัปดาห์เดียวก่อนจะถึงกำหนดวันยิงจรวดขึ้นสู่ห้วงอวกาศ ด้วยเหตุผลที่ ไลก้า เป็นสุนัขที่ตัวเล็ก รักสงบ มันจึงถูกเลือกให้เป็น สุนัขอวกาศตัวแรกที่จะถูกส่งขึ้นไปกับยานอวกาศเพื่อโคจรรอบโลก ก่อนจะมีการส่ง “ยูริ กาการิน” นักบินอวกาศคนแรก ชาวโซเวียต ขึ้นไปในโคจรรอบโลก ตามไปภายหลัง
ขณะเดียวกัน ก่อนหน้าที่จะส่งไลก้าขึ้นไปกับยานสปุตนิก 2 นั้น ทางศูนย์อวกาศของอดีตสหภาพโซเวียตได้ส่งสุนัขไปนอกโลกแล้วทั้งหมดรวม 36 ตัว แต่สุนัขตัวอื่นๆ เพียงแค่เดินทางไปกับยานอวกาศเท่าน้ัน ไม่ได้โคจรรอบโลกเหมือนกับเจ้าไลก้า

อย่างไรก็ตาม ขณะที่สหภาพโซเวียตส่งยานอวกาศที่มีเจ้าไลก้าขึ้นไปในห้วงอวกาศเมื่อ 57 ปีก่อนนั้น สำนักข่าวหลายสำนักในสหรัฐฯ และอังกฤษ ได้รายงานข่าวแสดงความสงสาร ไลก้า กันอย่างมาก แต่ทางเจ้าหน้าที่โซเวียตได้ตอบโต้ว่า ชาวรัสเซียรักสุนัข และการที่ส่งไลก้าไปกับยานอวกาศโคจรรอบโลกนั้น ไมใช่การทารุณโหดร้ายต่อสัตว์ แต่เพื่อประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ
แม้ว่าทีมงานของโซเวียตในครั้งนั้น จะได้ยืนยันว่า “ไลกา” ไม่มีความรู้สึกใดๆ อีกต่อไปแล้ว หลังจากยานสปุตนิกโคจรอยู่ประมาณหนึ่งสัปดาห์ เนื่องจากสถาบันมอสโกรายงานถึงปัญหาสารเคมีชีวภาพรั่วไหลออกมา นั่นหมายความว่า “ไลก้า” มันเสียชีวิตภายในไม่กี่ชั่วโมงนั่นเอง จากการบินขึ้นของยานอวกาศ และจากความตื่นตระหนกในตัวของมันเองบวกกับความร้อนภายในตัวยานที่สูงเกินไป แต่กระนั้นยานก็ยังคงโคจรรอบโลกเป็นเวลานานถึง 5 เดือน ก่อนจะถูกเผาไหม้เมื่อมันกลับเข้ามาบรรยากาศของโลกอีกครั้งในเดือนเมษายน ในปีถัดมา (พศ. 2501)

4. Ham คือชิมแปนซีตัวแรกที่ได้ออกนอกโลก
“เจ้าแฮม” เป็นลิงชิมแพนซี โดยชื่อของมันมาจากชื่อย่อของ “Holloman Aerospace Medical Center” ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกเพื่อเตรียมความพร้อมของมันสำหรับในโครงการนี้ที่ตั้งอยู่ในฐานทัพอากาศ ฮอลโลแมน รัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา และในวันที่ 31 มกราคม 2504 แฮมถูกส่งขึ้นสู่อวกาศตาม “โครงการเมอร์คิวรี่” เพื่อเป็นการทดสอบความปลอดภัย ก่อนที่จะมีการส่งมนุษย์อวกาศคนแรกของสหรัฐ “อลัน เชพพาร์ด” ที่จะถูกส่งไปในวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2504 ในปีเดียวกัน
ดังนั้นแฮมจึงนับว่าเป็นผู้บุกเบิกการสำรวจอวกาศชาวอเมริกันรายแรกเลยก็ว่าได้ จริงๆ ไม่อยากบอกว่ากว่าจะมาถึงแฮม พวกมนุษย์อย่างเราพยายามกับลิงมาหลายตัวแล้ว ด้วยรูปแบบแตกต่างกัน แต่เป็นที่น่าสงสาร ลิงเหล่านั้นมันไม่รอด แฮมเป็นชิมแปนซีอายุ 4 ปี แฮมและลิงอีกจำนวนหนึ่ง ถูกฝึกฝนมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ หนึ่งในการฝึกฝนที่สำคัญ คือ การดึงชุดคันบังคับให้ถูกลำดับ และกับภารกิจนี้ มนุษย์เราต้องการรู้ว่า สิ่งมีชีวิตสามารถทำงานได้ในช่วงการทะยานขึ้นฟ้า ทั้งในช่วงภาวะไร้น้ำหนักในอวกาศ และในช่วงกลับสู่โลก มีข้อมูลว่า ยานอวกาศลำที่แฮมไปนั้น เกิดปัญหาขึ้นระหว่างบินอยู่ในอวกาศ คือมีบางอย่างทำให้ยานเกิดเคลื่อนที่ไปด้วยความเร็ว 9,429 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเร็วกว่าที่วางแผนไว้ถึง 2,345 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ความเร็วที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้แฮมต้องพบกับภาวะไร้น้ำหนักรวมทั้งสิ้น 6.6 นาที นานกว่าที่วางแผนไว้ถึง 1.7 นาที แถมยังออกนอกเส้นทางไปไกลถึง 196 กิโลเมตร แต่เชื่อหรือไม่ว่า เจ้าแฮมสุดฉลาด เพราะมันได้ทำทุกอย่างตามขั้นตอนที่ฝึกมาอย่างดี เรียกว่าเกือบจะสมบูรณ์แบบก็ว่าได้ เป็นเพราะแฮมได้รับการฝึกให้ผลักคันโยกหลังจากเห็นไฟสีน้ำเงิน โดยหากแฮมไม่ทำมันจะโดนไฟฟ้าอ่อนๆ ช็อตผ่านขั้วไฟฟ้าขนาดเล็กบนตัวมัน
ในที่สุด แฮมก็สามารถผลักคันโยกอย่างแข็งขันระหว่างปฏิบัติภารกิจท่องอวกาศครั้งนี้ โดยอัตราความเร็วเฉลี่ยจะช้ากว่าขณะที่อยู่บนโลกประมาณ 1 วินาทีซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่าสิ่งมีชีวิตสามารถทำงานในอวกาศได้ ที่น่าตื้นตันคือ แฮมกลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัย โดยว่ากันว่าห้องนักบินของแฮมตกสู่มหาสมุทรแอตแลนติก แม้จะไกลจากเป้าหมายมาก และไม่มีพาหนะใดไปช่วยแฮมได้ในทันที แถมยานของแฮมถูกคลื่นซัดจนพลิกตะแคง และอยู่ในสภาพกึ่งลอยกึ่งจมเป็นเวลาเกือบ 3 ชั่วโมงก่อนที่เฮลิคอปเตอร์จะไปถึง

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงและได้เปิดประตูยานออกมา ก็ได้พบกับเจ้าแฮมที่รอดชีวิตและไม่ได้รับอันตรายใดๆ เลย จากเหตุการณ์นี้ทำให้ สหรัฐอเมริกามั่นใจสุดๆ ว่า โครงการอวกาศที่พวกเขาจะส่ง อลัน เชปพาร์ด ไปบ้าง ในวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2504 จะประสบความสำเร็จ แต่ว่าครั้งนี้เป็นการบินแบบกึ่งโคจรเท่านั้น ส่วนแฮมก็ได้รับการเกษียณอายุในวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2506 และย้ายไปอยู่ที่สวนสัตว์แห่งชาติในกรุงวอชิงตัน และนอร์ทแคโรไลนา มีชีวิตยืนยาวจนสิ้นอายุขัยในปี พ.ศ.2526 รวมอายุของมันนับแต่เกิดก็ 26 ปี แถมยังได้รับเกียรติสร้างภาพยนตร์แอนิเมชันคอมพิวเตอร์กราฟฟิก เกี่ยวกับชิมแปนซีที่ขับยานอวกาศของนาซา ตัวเอกเป็นชิมแปนซีชื่อ “แฮมที่ 3” (Ham III) ที่ในเรื่องกล่าวว่าเป็นหลานของ แฮม ที่ 1 นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีการสร้างวิดีโอเกม ออกวางจำหน่ายด้วย