เพื่อนๆหลายคงคนจะชอบเรื่องราวลึกลับทั้งที่เกิดในโลกและเกิดขึ้นในจักรวาลอันน่าค้นหาของเรา แน่นอนว่าในจักรวาลนั้นมีอะไรให้เราค้นหากันอีกมากมาย รวมถึงนักบินอวกาศที่นอกจะจะต้องมีร่างกายที่แข็งแรง มีทักษะความรู้ในการขับเคลื่อนยาน การสำรวจ การวิเคราะห์ และการมีสติเมื่อพบเจอกับสิ่งประหลาดที่อยู่ในห้วงอวกาศ
ในโลกของเรานี้นอกจากการแข่งขันด้านเศรษฐกิจ สงคราม และการเมืองแล้วนั้น อวกาศก็เป็นหนึ่งสิ่งที่ชาติมหาอำนาจต่างพากันพัฒนาและทำการแข่งขันเพื่ออวดอ้างเทคโนโลยีและวิวัฒนา การทางวิทยาศาสตร์ที่แต่ละประเทศมี ซึ่งจุดเริ่มต้นของการพัฒนาการด้านอวกาศคือการที่รัสเซียที่ตอนนั้นเป็นชาติมหาอำนาจ และกำลังแข่งขันกับสหรัฐอเมริกา
ในช่วงสงครามเย็น รัสเซียได้พัฒนาดาวเทียมสปุตนิกและส่งมันขึ้นไปเวียนว่ายในวงโคจร ซึ่งนับว่าเป็นการประกาศศักดาแสนยานุภาพของเทคโนโลยีอวกาศทำให้สหรัฐอเมริกาอยู่ไม่ติดจนต้องพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองให้ทัดเทียมและเหนือกว่า การแข่งขันด้านอวกาศมีมายาวนานแม้ว่าในปัจจุบันคนเราจะคุ้นชื่อกับ นาซา หรือชื่อเต็มว่าองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (National Aeronautics and Space Administration) องค์การภายใต้สัญชาติของสหรัฐอเมริกา มากกว่า รอสคอสมอส องค์การอวกาศสหพันธรัฐรัสเซีย (Roscosmos)
นอกจากนาซ่าและรัซเซียที่เร่งทำการวิจัยและพัฒนา คิดค้นเทคโนโลยีด้านอวกาศใหม่ๆเพื่อไปสำรวจดาวดวงต่างๆในจักรวาล ก็ยังมีมหาอำนาจอีกประเทศ คือ จีน ที่เริ่มพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศจนเกือบจะเทียบเท่าสองประเทศก่อนหน้า เพราะว่าจีนได้สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับคนทั้งโลกโดยการสร้างดาวเทียมควอนตัม (Quantum) ดวงแรกของโลก ซึ่งเป็นดาวเทียมที่มีระบบเครือข่ายที่รวดเร็วมากกว่าความเร็วเสียง และมีระบบความปลอดภัยสูงสุด จนแฮ็กเกอร์ไม่สามารถทำการโจรกรรมข้อมูลได้
หลังจากนั้นจีนก็ส่งดาวเทียมที่มีศักยภาพขึ้นไปอีกหลายร้อยดวง รวมถึงเริ่มพัฒนายานอวกาศ และยานสำรวจต่างๆให้ทัดเทียมกับนาซาและรอสคอสมอส จนในที่สุดจีนได้คิดค้นและพัฒนายานอวกาศที่บรรทุกนักบินอวกาศขึ้นไปวนรอบวงโคจรของโลก นั่นก็คือยานเสินโจว 5 (shenzhou5) ยานเสินโจว5 เป็นยานลำแรกของจีนที่นำมนุษย์อวกาศขึ้นไปด้วย ซึ่งยานลำนี้นี่เองที่เราเกริ่นไปเมื่อตอนต้นเรื่อง ว่ามันมีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นกับนักบินอวกาศที่ขึ้นไปพร้อมกับยานลำนี้
ยานเสินโจว 5 เป็นยานลำแรกของจีนที่จะนำนักบินอวกาศขึ้นไปบนวงโคจรของโลก ซึ่งระหว่างเริ่มโปรเจคนี้ก็มีการคิดค้นและพัฒนาอย่างหนักเพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นกับยานลำนี้เมื่อส่งขึ้นไปยังอวกาศ การที่จีนต้องทำงานหนักเพื่อพัฒนายานเสินโจว 5 เป็นเพราะว่ายานลำนี้จะต้องนำมนุษย์ขึ้นไปด้วย แถมยังต้องคิดค้นระบบลงจอดให้นักบินอวกาศที่ขึ้นไปนั้นปลอดภัย ในส่วนของนักบินอวกาศเองก็เช่นกัน
จีนได้คัดเลือกอดีตนักบินเครื่องบินขับไล่ไอพ่น มาจำนวน 14 คนเพื่อมาฝึกฝน ทั้งเตรียมความพร้อมของร่างกายและฝึกทักษะการบังคับยานอวกาศและการควบคุมระบบต่างๆ หลังจากนั้นจีนได้มีการคัดเลือกนักบันอวกาศเหลือเพียงแค่ 5 คน เพื่อมาฝึกฝนอย่างหนักและอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้มาเพียงหนึ่งเดียวที่จะขึ้นบินไปกับยานเสินโจว 5 นั่นก็คือ หยางลี่เว่ย หยางลี่เว่ยคือคนที่เหล่าบรรดาคณะกรรมการและคณะทำงานโครงการนี้ได้คัดเลือกเป็นตัวแทนชาวจีนขึ้นไปยังวงโคจรของโลกพร้อมกับยานเสินโจว 5 และเมื่อทุกอย่างพร้อม ในวันที่ 15 ตุลาคม 2546 ยานเสินโจว 5 ได้ทะยานขึ้นฟ้าพ้นชั้นบรรยากาศของโลก
ท่ามกลางความลุ้นระลึกจากทีมงาน กองเชีย และประธานาธิบดี เมื่อยานขึ้นไปและสามารถลอยอยู่ในวงโคจรของโลกได้แล้วนั้น หยางลี่เว่ยก็ได้ส่งรายงานผ่านวิทยุมาว่าเขารู้สึกดี นั่นคือช่วงเวลาที่ทางการจีนได้ประกาศให้กับทุกคนทั่วโลกว่า ยานเสินโจว 5 ประสบความสำเร็จ ซึ่งในเวลาต่อมา หยางลี่เว่ยก็ได้ทำการวีดีโอคอลไปหาภรรยาและลูก และหลังจากนั้น เขาก็ได้อยู่ในยานซึ่งอยู่บนวงโคจรโลกเพียงลำพัง
เมื่อทุกอย่างในอวกาศกำลังเงียบสงัด ภายใต้เสียงเครื่องยนของยานเสินโจว 5 หยางลี่เว่ยเขาก็ได้ยินเสียง เคาะจากด้านนอกของยาน เหมือนมีอะไรมาเคาะอยู่ด้านนอก ซึ่งเสียงนั้นคล้ายกับคนเอาค้อนมาเคาะถังเหล็ก หยางลี่เว่ยตกใจมากและพยายามจะหาต้นตอของเสียงนั้นว่ามันคือเสียงอะไร ซึ่งเขาก็ได้สำรวจบริเวณหน้าต่างของยานแต่ก็ไม่พบอะไร เขาจึงได้แต่จดจำเสียงนั้นไว้เพื่อนำมาพิสูจน์บนโลกหลังจากที่เขาได้กลับมาแล้ว ยานเสินโจว 5 ล่องลอยอยู่ในวงโคจรโลกเป็นระยะเวลา 21 ชั่วโมงก่อนที่จะติดต่อให้สัญญาณกับภาคพื้นดินเพื่อให้ยานลำนี้ลงจอด และหยางลี่เว่ยก็ลงสู่พื้นโลกโดยสวัสดิภาพ
หลังจากเขาได้กลับมายังพื้นโลกแล้วก็ไม่วายจะเก็บข้อสงสัยของเสียงประหลาดที่เคยได้ยินบนยาน และลองเลียนแบบเสียงนั้นร่วมกับนักวิทยาศาสตร์เพื่อวิเคราะห์ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่แล้วเขาก็ไม่พบสาเหตุที่เป็นไปได้ในการที่จะทำให้เสียงนั้นเกิดขึ้นได้ เพื่อนๆคิดว่าเสียงเคาะนั้น เกิดขึ้นได้ยังไง และเกิดขึ้นเพราะอะไร
แล้วเพื่อนๆรู้หรือปล่าวว่านอกจากเสียงประหลาดนี้จะเกิดขึ้นกับหยางลี่เว่ยบนยานเสินโจว 5 แล้ว เสียงนี้ยังมีนักบินอวกาศของยานเสินโจว 6 และยานเสินโจว 7 ได้ยินอีกด้วย ทว่าอาจจะเป็นเสียงของเครื่องยนต์ที่จีนออกแบบมาเมื่อวัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร็วมากๆอาจมีเสียงเกิดขึ้นได้ ก็มีทางเป็นไปได้ แต่มันมาน่าสงสัยอีกตรงที่ว่าเสียงประหลาดที่เกิดขึ้นในอวกาศนี้ จีนไม่ได้เจอเพียงลำพัง โทรทัศน์ช่องหนึ่งเคยเปิดเผยว่า ยานอพอลโล่ 10 ที่เคยขึ้นไปสำรวจดวงจันทร์ก่อนที่อพอลโล 11 จะพามนุษย์ไปเหยียบดวงจันทร์นั้น ก็เคยได้ยินเสียงดนตรีปริศนา
เมื่อตัวยานเคลื่อนที่ผ่านบริเวณด้านมืดของดวงจันทร์ โดยเสียงนั้นเป็นเสียงร้องวู ลากยาวๆๆ ที่ยาวนานกว่า 1 ชั่วโมง ซึ่งแน่นอนบริเวณด้านมืดของดวงจันทร์เป็นจุดอับสัญญาณ และไม่มีสัญญาณใดใดของโลกจะเข้าถึง และเสียงนั่นคือเสียงอะไร ข้อสงสัยเหล่านี้ล้วนยังไม่มีใครหาคำตอบ อาจเป็นเพราะว่าทางฝั่งวิทยาศาสตร์ก็เชื่อกันตามหลักเหตุผลว่ามันอาจจะเกิดจากความผิดพลาดของอุปกรณ์ อะไรสักอย่างก็ได้ แต่พวกที่ชอบในสิ่งลี้ลับ ก็มักจะเชื่อว่านี่อาจเป็นสัญญาณจากมนุษย์ต่างดาว
อย่างไรก็ตามถึงแม้คำตอบของเสียงประหลาดที่เกิดขึ้นบนยานเสินโจว 5 จะหาคำตอบไม่ได้ แต่นักบินอวกาศยางลี่เว่ย นักบินหนึ่งเดียวที่กล้าพิชิตภารกิจยานเสินโจว 5 ของจีนที่นำมนุษย์เข้าสู่ห้วงอวกาสครั้งแรก เขาจึงได้รับรางวัลเป็นฮีไร่ในอวกาศของจีน และยังได้เลื่อนตำแหน่งมียศสูงขึ้นอีกด้วย ซึ่งต่อมาเขาก็ไม่ได้กลับมาบินต่อแล้วแต่ก็ยังทำงานเป็นเบื้อหลังโครงการอวกาศต่างๆของจีน
ซึ่งในภายหลังเขาได้หลายเป็นรองผู้อำนวยการสำนักงานจัดการโครงการอวกาศของจีน และนี่คือเรื่องราวเสียงประหลาดที่เกิดขึ้นกับยานเสินโจว 5 ที่บางคนก็บอกว่ามันอาจเกิดจากการสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์และบางคนก็คิดต่างไปจากนั้นโดยคิดว่านั่น อาจจะเป็นการมาทักทายของมนุษย์ต่างดาวก็ได้ และถ้าเพื่อนๆถูกใจบทความนี้ อย่าลืมกดติดตามและกดกระดิ่งช่อง eduHUB กันด้วยนะคะ