
ถึงแม้ในปัจจุบันนี้มนุษย์เราจะประสบความสำเร็จอย่างมากในการส่งคนไปสำรวจดวงจันทร์ โดยจากข้อมูลในปีพ.ศ. 2561ปรากฏว่าเราเคยส่งนักบินอวกาศไปเหยียบดวงจันทร์แล้วถึง 24 คน แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังไม่สามารถให้คนขึ้นไปอาศัยอยู่บนดวงจันทร์ได้เป็นการถาวรอยู่ดี เพราะอุณหภูมิบนพื้นผิวดวงจันทร์แตกตางกันอย่างมากในตอนกลางวันและตอนกลางคืน ซึ่งตอนกลางวันอาจร้อนได้ถึง 130 องศาเซลเซียส ในขณะที่ตอนกลางคืนอุณหภูมิจะลดลงถึงติดลบ 170 องศาเซลเซียส เรียกได้ว่าตอนเช้าก็ร้อนจนย่างสดเราได้
ในขณะที่ตอนกลางคืนก็หนาวจนสามารถแช่แข็งเราทั้งเป็น นอกจากนี้ยังมีการแผ่รังสีจากดวงอาทิตย์ แถมยังต้องคอยหลบอุกกาบาตที่พุ่งมาชนดวงจันทร์ด้วย แต่ที่สำคัญที่สุดคือเราไม่มีอากาศหายใจบนดวงจันทร์ ด้วยเหตุนี้เวลานักบินอวกาศลงไปเหยียบดวงจันทร์ที จึงต้องใส่ชุดอวกาศพองๆ เหมือนมาสคอตยางมิชลิน เพราะชุดนักบินอวกาศนี้จะเป็นทั้งเกราะป้องกันรังสีจากดวงอาทิตย์ เป็นฉนวนควบคุมอุณหภูมิ แถมยังบรรจุก๊าซออกซิเจนสำหรับหายใจและสร้างความกดอากาศที่เหมาะสมอีกด้วย ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรยากเกินกว่าสติปัญญามนุษย์ เหล่านักวิทยาศาตร์จึงเริ่มคิดกันว่า “ถ้าไม่มีออกซิเจนบนดวงจันทร์ งั้นก็สร้างมันขึ้นมาซะเลยสิ!”

ดวงจันทร์…ดวงดาวบริวารแบบถาวรดวงเดียวของโลก และเป็นดาวบริวารใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 5 ในระบบสุริยะ ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลมากจนเกินไป และไม่ได้มีสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์อย่างรุนแรงเมื่อเทียบกับดาวดวงอื่นๆ อย่างดาวศุกร์ที่มีฝนตกเป็นกรดซัลฟิวริก หรือดาวเคราะห์ชั้นนอก อย่างดาวพฤหัสฯและดาวเสาร์ที่มีพื้นผิวเป็นแก๊ส ถ้าเราเหยียบลงไป เราก็จะจมหายลงไปในกลุ่มแก๊ส ก่อนจะโดนแรงกดอากาศด้านในบดจนเละ ดังนั้นดวงจันทร์จึงดูเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับดวงดาวที่เราสามารถย้ายไปตั้งรกรากได้ในอนาคต
แต่อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าดวงจันทร์ไม่มีชั้นบรรยากาศที่มนุษย์เราสามารถหายใจได้เหมือนกับโลก มันจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับมนุษย์ที่จะขึ้นไปตั้งถิ่นฐานบนดวงจันทร์ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าดวงจันทร์จะไม่มีออกซิเจนเลยซะทีเดียว เพราะจริงๆ แล้วบนดวงจันทร์เองก็มีออกซิเจนอยู่ เพียงแต่มันอยู่ในรูปแบบที่เราไม่สามารถหายใจเข้าไปได้เท่านั้น

ซึ่งถ้าเราสามารถผลิตออกซิเจนบนดวงจันทร์ได้จริง มันคงจะช่วยเหล่านักบินอวกาศได้เป็นอย่างมาก เพราะนั่นหมายความว่า เราไม่จำเป็นต้องขนออกซิเจนจำนวนมากๆ เพื่อเอาไว้ใช้สำหรับหายใจในอวกาศ หรือเอาไว้ใช้สำหรับเป็นเชื้อเพลิงอีกแล้ว นั่นจะทำให้ยานอวกาศของเราเบาขึ้น และสามารถขนของที่จำเป็นอย่างอื่นขึ้นไปได้แทน ซึ่งการผลิตออกซิเจนบนดวงจันทร์นี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป เพราะตอนนี้เหล่านักวิจัยจากองค์การอวกาศยุโรป (ESA) สามารถสกัดออกซิเจนจากสิ่งที่พบได้มากที่สุดบนดวงจันทร์ หรือก็คือดินบนดวงจันทร์นั่นเอง!
ก่อนหน้านี้ดินบนดวงจันทร์ถูกนำไปศึกษาอย่างกว้างขวาง ตั้งแต่ตอนที่ยานอพอลโลเก็บตัวอย่างดินดวงจันทร์กลับมาได้ในปี 1972 ดินจากดวงจันทร์นี้ถูกส่งต่อให้เหล่านักวิทยาศาสตร์ได้นำไปศึกษา ว่าดินบนดวงจันทร์นี้จะสามารถเอาไปทำอะไรได้บ้าง อย่างเช่น เอาไปสร้างเป็นที่อยู่ โรงงานผลิตไฟฟ้า หรือตัวกักเก็บความร้อน ซึ่งในงานวิจัยล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ก็ค้นพบว่าเราสามารถเอาดินจากดวงจันทร์ไปทำอากาศหายใจได้! สืบเนื่องจากการค้นพบว่าในดินของดวงจันทร์มีออกซิเจนอยู่มากถึง 40-45 เปอร์เซ็ตของน้ำหนักตัว แต่ปัญหาคือออกซิเจนเหล่านั้นถูกปิดผนึกอยู่ภายในแร่ออกไซด์ มันจึงอยู่ในรูปแบบที่มนุษย์ไม่สามารถนำมาหายใจได้

หลังจากนั้นนักวิจัยที่ศูนย์วิจัยและเทคโนโลยีอวกาศยุโรป (ESTEC) เลยพัฒนาเครื่องผลิตออกซิเจนจากดินบนดวงจันทร์ขึ้น โดยอุปกรณ์ต้นแบบนี้จะใส่ดินบนดวงจันทร์ลงไปในชามที่มีเกลือแคลเซียมคลอไรด์เหลว ก่อนจะเร่งความร้อนให้สูงถึง 950° องศาเซลเซียล แต่ถึงแม้ดินบนดวงจันทร์จะได้รับความร้อนสูงถึงขนาดนั้น มันก็ยังคงสภาพเป็นของแข็ง ซึ่งเกลือแคลเซียมคลอไรด์เหลวนี้เองที่จะทำหน้าที่เหมือนกระบวนการอิเล็กโทรไลซิส หรือก็คือทำหน้าที่เป็นทางผ่านให้ออกซิเจนเดินทางออกมาอยู่ในรูปที่สามารถนำไปใช้ได้ หลังจากนั้นนักวิทยาศาสตร์จึงได้เติมไฟฟ้าเข้าไป เพื่อแยกออกซิเจนออกมาจากดิน จนในที่สุดเราก็ได้ออกซิเจนที่สามารถหายใจได้ออกมา
เรื่องนี้นับว่าเป็นความสำเร็จอย่างใหญ่หลวงสำหรับวงการวิทยาศาตร์ แต่ถึงอย่างนั้นเครื่องผลิตออกซิเจนนี้ก็ยังคงเป็นแค่ตัวต้นแบบ กล่าวคือมันเป็นเพียงแค่ตัวทดลองให้เห็นว่าทฤษฏีนี้ใช้ได้ผลจริงๆ เท่านั้น ซึ่งถ้านักบินอวกาศจำเป็นต้องนำเครื่องนี้ขึ้นไปใช้บนอวกาศจริงๆ ทีมงานก็ต้องมีการปรับปรุงกระบวนการการทำงานของเครื่องเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

“การที่เราสามารถสร้างออกซิเจนจากสิ่งที่พบบนดวงจันทร์ได้นี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากในอนาคต โดยเฉพาะกับคนที่ต้องไปลงหลักปักฐานนานๆ บนดวงจันทร์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการหายใจและการผลิตเชื้อเพลิงสำหรับยานอวกาศ” เบธ โลแมกซ์ (Beth Lomax) หนึ่งในสมาชิกทีมวิจัยที่สร้างเครื่องสกัดออกซิเจน กล่าว
แต่ทั้งนี้ออกซิเจนก็ไม่ใช่สิ่งเดียวที่เราสกัดได้จากดินบนดวงจันทร์ เพราะเมื่อเราสกัดออกซิเจนออกไปแล้ว เราจะเหลือกากของดินที่มีส่วนผสมของโลหะหลายชนิด เช่น ซิลิกอน เหล็ก แคลเซียม และแร่อื่นๆ ซึ่งมันสามารถนำไปสร้างเป็นที่อยู่ให้นักบินอวกาศได้ด้วย

“นี่จะเป็นการศึกษาที่มีประโยชน์มาก ถ้าเราสามารถหาคำตอบได้ว่า เราต้องทำยังไงจึงจะสามารถดึงประโยชน์จากโลหะผสมพวกนี้ออกมาได้อย่างสูงสุด หรือเราสามารถเอาพวกมันไปใช้ทำอะไรได้อีก” อเล็กซานเดร เมอริซ (Alexandre Meurisse) อีกหนึ่งสมาชิกทีมวิจัยที่ศึกษาเครื่องสกัดออกซิเจน เสริม
ซึ่งหลังจากนี้ทีมนักวิทยาศาสตร์ก็ได้วางแพลนเอาไว้แล้วว่า พวกเขาจะดำเนินการปรับแต่งเครื่องต้นแบบนี้อย่างต่อเนื่อง และหวังว่าพวกเขาจะสามารถเปิดตัวเครื่องนำร่องที่สมบูรณ์แบบได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้
ก็จบไปแล้วนะคะสำหรับเรื่องการสกัดออกซิเจนจากดินบนดวงจันทร์ ซึ่งถ้าหากเครื่องสกัดออกซิเจนนี้สามารถสร้างเสร็จจนสมบูรณ์ได้แล้วจริงๆ ก็ไม่แน่ว่าในอนาคตนี้เราอาจมีโอกาสได้ย้ายขึ้นไปอยู่บนดวงจันทร์กันจริงๆ ก็ได้ แล้วท่านผู้ชมล่ะคะ มีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง สามารถคอมเม้นต์เข้ามาพูดคุยกันได้นะคะ และก่อนจากกันวันนี้ อย่าลืมกดติดตามและกดกระดิ่งช่อง eduHUB ไว้เพื่อที่จะได้ไม่พลาดคลิปใหม่ๆ ก่อนใครด้วยนะคะ และสำหรับวันนี้ทีมงาน eduHUB ก็ต้องขอลาไปก่อน สวัสดีค่ะ