พบถ้ำบนดวงจันทร์!!

ก่อนหน้านี้มีแนวคิดใหม่เกี่ยวกับดวงจันทร์ขึ้นมา โดยกล่าวว่าแท้จริงแล้วดวงจันทร์อาจเคยมีสิ่งมีชีวิตที่มีโครงสร้างไม่ซับซ้อนอาศัยอยู่ช่วงหนึ่งเมื่อประมาณ 4 พันล้านปีก่อน เนื่องจากดวงจันทร์ในช่วงที่ระบบสุริยะเพิ่งถือกำเนิดน่าจะมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและเอื้อให้เกิดสิ่งมีชีวิตเหมือนกับโลกเรา แนวคิดนี้ถูกคิดค้นโดยศาสตราจารย์เดิร์ก ชูลซ์-มาคูช์ จากมหาวิทยาลัยวอชิงตันสเตทของสหรัฐฯ และศาสตราจารย์เอียน ครอว์เฟิร์ด จากมหาวิทยาลัยลอนดอนของสหราชอาณาจักร และแนวคิดดังกล่าวก็ได้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Astrobiology ด้วย

จากแนวคิดนี้กล่าวว่าดวงจันทร์เกิดจากการชนและรวมตัวกันของดาวเคราะห์โบราณ รวมไปถึงอุกกาบาตต่างๆ ที่พุ่งลงมาชนดวงจันทร์ ซึ่งส่วนผสมของดาวเคราะห์และอุกกาบาตเหล่านั้นมีแร่ธาตุและองค์ประกอบที่สามารถให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตได้ และเมื่อดวงจันทร์รวมตัวกันเสร็จแล้ว พื้นผิวของมันก็จะเริ่มเย็นตัวลง ก๊าซร้อนและไอน้ำที่เกิดจากการชนและการเสียดสีก็จะระเหยขึ้นไปกลายเป็นชั้นบรรยากาศ และเมื่อมีชั้นบรรยากาศแล้ว น้ำบนดวงจันทร์ก็จะยังคงสถานะเป็นของเหลวได้ แถมชั้นบรรยากาศนี้ยังช่วยป้องกันลมสุริยะและรังสีต่างๆ ในอวกาศได้ด้วย จึงเหมาะสมกับการอยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตอย่างมาก

ดวงจันทร์

เมื่อน้ำสามารถคงสถานะเป็นของเหลวได้ สิ่งมีชีวิตที่สามารถถือกำเนิดขึ้นตามมาก็คือสิ่งมีชีวตพื้นฐานอย่างไซยาโนแบคทีเรีย เหมือนกับที่สิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลกเริ่มต้นจากการรวมตัวกันของแบคทีเรีย แต่ถึงกระนั้นศาสตราจารย์ทั้งสองก็ไม่ยืนยันว่าแนวคิดที่ว่านี้จะเป็นไปได้จริงร้อยเปอร์เซ็นต์ เพียงแต่อาจเป็นความเป็นไปได้หนึ่งเท่านั้น คาดว่าดวงจันทร์จะมีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้เกิดสิ่งมีชีวิตมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกคือเมื่อ 4 พันล้านปีก่อนตอนที่ระบบสุริยะถือกำเนิด และอีกครั้งหนึ่งคือเมื่อ 500 ล้านปีก่อนตอนที่เกิดการเคลื่อนตัวของภูเขาไฟบนดวงจันทร์

ในช่วงเวลาทั้งสองที่กล่าวไปนี้น่าจะมีจุลชีพอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำสักแห่งบนดวงจันทร์เป็นระยะเวลานานสุด 70 ล้านปี แต่หลังจากนั้นดวงจันทร์ก็เกิดความเปลี่ยนแปลงจนสภาพที่เอื้อต่อสิ่งมีชีวิตหายไป ทำให้จุลชีพเหล่านั้นล้มหายตายจากไปด้วย ดังนั้นในอนาคตเมื่อเราไปสำรวจดวงจันทร์อีกครั้ง เราก็ควรตรวจหาร่องรอยที่บ่งชี้ว่าเคยมีสิ่งมีชีวิตอย่างจุลชีพบนดวงจันทร์ด้วย

ดวงจันทร์

นอกจากนี้ยังมีการค้นพบถ้ำขนาดใหญ่บนดวงจันทร์ด้วย นักวิทยาศาสตร์จากองค์การอวกาศญี่ปุ่นกล่าวว่าถ้ำแห่งนี้อาจใช้เป็นที่พักระหว่างทางก่อนมุ่งหน้าไปดาวอังคารที่อยู่ไกลออกไปในอนาคตได้ เนื่องจากถ้ำสามารถช่วยกันรังสีอันตรายบนอวกาศและปกป้องนักบินจากสภาพอากาศที่แปรปรวน

จากข้อมูลที่ยานอวกาศซีลีน (SELENE : Selenological and Engineering Explorer) เก็บมาได้ระบุว่าถ้ำนี้ตั้งอยู่บริเวณหุบเขามารีอุส มีความยาวอยู่ที่ 50 กิโลเมตรและกว้าง 100 เมตร คาดว่าน่าจะเกิดจากการปะทุของภูเขาไฟเมื่อราวๆ 3.5 ร้อยล้านปีก่อน โดยรายงานการค้นพบถ้ำนี้ถูกเผยแพร่ในวารสารวิชาการจีโอฟิสิคัลรีเสิร์ชเลตเตอร์ส (Geophysical Research Letters)

ยานอวกาศซีลีน
ภาพยานอวกาศซีลีน – ขอขอบคุณภาพประกอบจากเว็บไซต์ 3dwarehouse.sketchup.com

ก่อนหน้าที่จะมาการค้นพบถ้ำนี้ ญี่ปุ่นก็เคยออกมาประกาศแล้วเมื่อเดือนมิถุนายนว่า ทางญี่ปุ่นมีแผนการจะส่งคนขึ้นไปบนดวงจันทร์ให้ได้ภายในปี 2030 ซึ่งนั่นจะเป็นการเดินทางที่ไกลที่สุดเท่าที่ญี่ปุ่นเคยส่งมนุษย์ขึ้นอวกาศ แต่นอกจากญี่ปุ่นแล้ว นาซาเองก็มีแผนจะส่งนักบินไปดวงจันทร์เช่นกัน แม้ว่านั่นจะเป็นส่วนหนึ่งในแผนการเดินทางไปดาวอังคารในระยะยาวก็ตาม โดย ไมค์ เพนซ์ (Mike Pence) รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ทางอเมริกาจะส่งนักบินกลับไปยังดวงจันทร์อีกครั้ง แต่ไม่ใช่เพื่อทิ้งรอยเท้าหรือปักธง แต่จะเป็นการสร้างฐานที่มั่นบนดวงจันทร์เพื่อให้นักบินรุ่นต่อๆ ไปสามารถเดินทางออกไปได้ไกลขึ้น

นอกจากการค้นพบถ้ำแล้ว ยานลูนาร์รีคอนเนซองส์ออบิเตอร์ (Lunar Reconnaissance Orbiter: LRO) ยานอวกาศของนาซายังพบอีกด้วยว่าดวงจันทร์กำลังมีขนาดเล็กลง สาเหตุของการหดตัวนี้เกิดจากการสั่นสะเทือนและรอยแยกบนพื้นดินบริเวณที่ราบแมร์ฟริกอริส (Mare Frigoris) ทางขั้วเหนือของดวงจันทร์ กล่าวคือดวงจันทร์ไม่มีเปลือกดาวเพื่อกักเก็บความร้อนเหมือนโลก ดังนั้นความร้อนภายในดวงจันทร์จึงสามารถระเหยออกไปได้ ทำให้ดวงจันทร์หดลงและเกิดรอยเหี่ยวย่นเหมือนลูกเกด

เป็นยังไงกันบ้างคะ เพื่อนๆคิดว่าจะมีสิ่งมีชีวิตอะไรอีกมั้ยที่เคยอยู่บนดวงจันทร์ ไม่แน่บนดวงจันทร์อาจจะมีไดโนเสาร์หรือมนุษย์ต่างดาวอยู่ก็เป็นได้นะคะ สุดท้ายนี้ หากถูกใจคลิปของพวกเราก็อย่าลืมกดติดตามและกดกระดิ่งช่อง eduHUB กันด้วยนะ