10 ตำนานเฮี้ยนโรงเรียนหลอน(ในไทย)

เชื่อว่าเพื่อนๆทุกคนต้องเคยได้ยินเรื่องเล่าความหลอนของโรงเรียนของตัวเองมากันบ้างแล้ว ทุกโรงเรียนย่อมมีเรื่องหลอนๆ อาจจะได้ยินจากรุ่นพี่ที่เล่าต่อๆกันมา อาจมีทั้งเรื่องจริงและไม่จริง แต่วันนี้พวกเรา EDU HUB  จะยก 10 ตำนานความหลอนของโรงงเรียนในเมืองไทยมาให้เพื่อนๆดูกัน

1.ครูวิภา

ครูวิภาเป็นคุณครูในโรงเรียนรัฐบาลชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพ นักเรียนส่วนใหญ่มักจะเคยได้ยินเรื่องเล่าของ “ครูวิภา”
ครูสอนนาฏศิลป์ที่เคร่งครัด เจ้าระเบียบ เข้มงวด ทุกอย่างๆต้องถูกระเบียบ แถมครูวิภายังมีชื่อเสียงในเรื่องของการร่ายรำเป็นอย่างมาก วันหนึ่งครูวิภามีอาการป่วยอย่างหนัก จนถึงกับต้องเข้าโรงพยาบาล แต่ด้วยหน้าที่ความรับผิดชอบและความรักในอาชีพ ครูวิภาจึงหนีออกมาจากโรงพยาบาลเพื่อที่จะมาฝึกซ้อมเด็กๆในการแข่งขันรำไทย

ในคืนนั้นเองอาการของครูวิภาทรุดลงอย่าหนัก ทำให้ต้องไปเอายาที่ลืมไว้ในห้องนาฏศิลป์ แต่โชคร้ายไม่มีใครรู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นในห้องนาฏศิลป์คืนนั้น จนเช้าวันรุ่งขึ้นมีคนไปพบศพของครูวิภาในห้องนาฏศิลป์..เวลาผ่านไปทางโรงเรียนต้องการที่จะทุบห้องนาฏศิลป์นั้นทิ้ง แต่…..ทุกครั้งที่มีคนพยายามเข้าไปย้ายสิ่งของ ก็จะได้มีเสียงดนตรีไทย และจะเห็นคน(หรือผี) มารำอยู่ในห้องนั้นทุกวัน!! จนไม่มีใครคนใดกล้าเข้าไปย้ายของในห้องนั้นอีกเลย จนถึงปัจจุบันห้องนาฏศิลป์ของครูวิภาก็ยังอยู่เหมือนเดิม..

2.ผีโบว์เขียวในตำนาน

เรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดในโรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด.. ปกติโรงเรียนมักจะออกกฎระเบียบให้นักเรียนหญิงผูกโบว์ ส่วนใหญ่โบว์ที่ใช้ก็จะเป็นสีดำหรือไม่ก็สีน้ำเงิน มีนักเรียนหญิงคนนึงไม่ผูกโบว์สีดำหรือสีน้ำเงินแต่กลับผูกโบว์สีเขียวมาโรงเรียนทุกวัน จนกลายเป็นเอกลักษ์ในตัวเธอไปแล้ว อยู่มาวันนึงได้เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้นกับเธอ เมื่อพัดลมเบดานในห้องเรียนขัดข้องและหล่นลงมาตรงที่เธอนั่งพอดี เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้เด็กนักเรียนโบว์เขียวถึงแก่ความตาย

เวลาผ่านไปเรื่องราวของเด็กนักเรียนโบว์เขียวก็เงียบหายไปตามกาลเวลา จนอยู่มาวันหนึ่งถึงคาบเรียนของครูใหม่คนนึง ตั้งคำถามขึ้นและไม่มีนักเรียนคนไหนตอบ แล้วครูใหม่ก็พูดขึ้นมาว่า “อ่ะ โบว์เขียวตอบครูซิ” นักเรียนในห้องต่างก็พากันงง เพราะในห้องไม่มีใครที่ผูกโบว์สีเขียว ครูใหม่ก็ชี้ไปหลังห้องแล้วบอกว่า “เด็กคนนั้นอ่ะ ที่อยู่หลังห้อง” พูดจบทั้งห้องเรียนทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ!!!!!!

3.อาถรรพ์โรงเรียนประถม

โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรีมีเรื่องเล่ามากมาย ทั้งเรื่องกุมารทองของบรรณารักษ์ห้องสมุดที่เมื่อถึงตอนเช้าทีไรห้องสมุดที่เก็บไว้อย่างเป็นระเบียลก็ต้องถูกรื้อค้นกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง และบางครั้งอยู่ๆหนังสือที่อยู่บนชั้นว่างก็ตกลงมาโดยที่บริเวณนั้นไม่มีใครอยู่แถมยังบางครั้งก็ยังได้ยินเสียงวิ่งเล่นของเด็กอยู่บ่อยครั้ง และยังมีเรื่องห้องน้ำชายที่ถูกปิดตาย เพราะมีเสียงร้องไห้ปริศนาออกมาจากห้องน้ำ และยังมีนักเรียนเห็นวิญญาณของเด็กผู้หญิงมายืนร้องไห้อยู่หน้ากระจก!! แต่สุดท้ายก็ได้รู้ความจริงว่า ก่อนหน้าที่จะตั้งเป็นโรงเรียนที่ดินแห่งนี้เคยตั้งเป็นโรงพยาบาลเก่ามาก่อน ขนาดพระที่มาทำกิจนิมนต์ยังรู้สึกได้ถึงกลิ่นวิญญาณอาฆาตของโรงเรียนแห่งนี้……

4.รองเท้าส้นสูงในห้องน้ำหญิง

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อยู่ห้องน้ำหญิง ในบริเวณโรงอาหารของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่เล่าต่อๆกันมาว่ามีผู้คนมักจะได้ยินเสียงของรองเท้าส้นสูงเดินวกไปวนมาในห้องน้ำอยู่ตลอดเวลา เชื่อกันว่าเป็นวิญญาณของหญิงสาวที่ถูกฆาตกรรมในห้องน้ำแห่งนี้
ขณะเกิดเหตุเธอใส่รองเท้าส้นสูง เลยทำให้ทุกคนยิ่งเชื่อว่าวิญญาณของเธอยังไม่ไปไหน แต่ยังคอยวนเวียนอยู่ในจุดที่เธอตาย..คือในห้องน้ำแห่งนี้………….

5.ผีห้องพยาบาล

เรื่องนี้เป็นเรื่องของโรงเรียนชื่อดังแถวสยามที่เป็นแหล่งรวบรวมของแฟชั่นและเด็กเก่งๆทั้งหลาย เรื่องก็มีอยู่โดยส่วนใหญ่เด็กที่ขี้เกียจเรียน อยากจะโดดเรียน ไม่ชอบเรียนคาบใดคาบหนึ่ง ก็มักจะอ้างกับครูว่า ปวดหัวบ้าง ไม่สบายบ้างจนสุดท้ายต้องไปนอนที่ห้องพยาบาล แต่คงไม่ใช่กับโรงเรียนแห่งนี้ เพราะมีเรื่องเล่าต่อๆกันมาว่า ถ้าใครแอบอ้างว่าตัวเองป่วย ไม่สบาย แล้วจะขอไปนอนห้องพยาบาลก็จะเจอดีคือจะเห็นเท้าคนมาเดินบริเวณผ้ากั้นรอบๆเตียง แต่กลับไม่เห็นเงาคน!! บางคนก็ได้ยินเสียงคนเดินแต่จิงๆแล้วในห้องนั้นไม่มีใครอยู่ ทำเอาพวกเด็กๆที่ชอบแกล้งป่วยและเด็กที่ป่วยจริงๆไม่มีใครกล้าที่จะมานอนในห้องห้องพยาบาลนี้เลย

6.(ผี)คุณยายบนตึกเรียน

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่นักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งเล่าต่อๆกันมา เช้าวันหนึ่ง มีครูท่านหนึ่งมาโรงเรียนเช้ากว่าปกติ ในโรงเรียนก็ยังมีคนไม่มากนัก พอเดินมาถึงตึก ครูได้เหลือบตามองขึ้นไปด้านบนของตึก เห็นคุณยายแก่ๆคนนึงใส่ชุดจีน ครูก็คิดว่าอาจจะเป็นผู้ปกครองของนักเรียน หรือใครที่จะมาติดต่อราชการ จึงรีบเดินขึ้นไปบนตึก

พอไปถึงด้านบนของตึกกลับไม่พบคุณยายชุดจีนคนนั้นแล้วทั้งๆที่ทางขึ้น-ลงของตึกแค่มีอยู่ทางเดียว ถ้าคุณยายเดินลงมาก็ต้องสวนทางกัน ครูจึงตัดสินใจหันหลังเพื่อที่จะเดินต่อ..แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นคุณยายชุดจีนคนนั้นได้มานั่งอยู่ที่หน้าห้อง ครูจึงทำเป็นมองไม่เห็นและจะเดินเข้าห้องไป แต่ระหว่างที่ครูเดินผ่านคุณยาย คุณยายก็มองตามคุณครูอย่างไม่ละสายตา จนคอของคุณยายนั้นบิดเสียรูปทรง แล้วเลือดก็ค่อยๆไหลออกมาจากคอ พร้อมรอยยิ้มที่มีความสยดสยอง ทันใดนั้นก็มีเสียงกลอนประตูดังขึ้น ครูจึงรีบวิ่งเข้าห้องและไม่หันกลับมาดูอีก เหมือนเรื่องราวจะจบแล้ว

แต่ในเย็นวันนั้น คุณครูในโรงเรียนพูดกันว่าแม่ของ ผอ. ตกบันไดคอหักเสียชีวิตในตึกนั้น เมื่อครูได้เห็นรูปก็ถึงกับช็อคเพราะคุณยายที่อยู่ในรูป คือคุณยายชุดจีนคนที่เจอเมื่อตอนเช้านั้นเอง

7.อาคาร 6 อาคารหลอน

เรื่องเกิดขึ้นในโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด ที่เล่าต่อๆกันมาว่า ก่อนที่จะมาเป็น อาคาร 6 เมื่อก่อนที่แห่งนี้เคยเป็นศาลาพักศพมาก่อน ทำให้ในทุกๆวันอังคารจึงต้องมีการทำบุญตึก อาคารแห่งนี้มีเรื่องราวหลอนๆเกิดขึ้นมากมาย เคยมีครูคนนึงทำงานเลิกดึก พอเดินลงมาจากตึก กลับเห็นเด็กนักเรียนขึ้นไปนั่งอยู่บนป้ายตรงทางเดิน ครูจึงถามนักเรียนคนนั้นว่า “เป็นอะไร ทำไไม่กลับบ้าน แล้วมานั่งอะไรอยู่ตรงนี้” แต่พอเด็กนักเรียนคนนั้นเงยหน้าขึ้นมา ครูถึงกับต้องช็อค เพราะภาพที่เห็นนั้น น้ำตาของเด็กนักเรียนคนนั้นไหลออกมาเป็นสายเลือด แถมป้ายที่นั่งอยู่ก็เป็นป้ายที่ติดอยู่กับฝาผนังไม่มีทางที่จะมีคนขึ้นไปนั่ง ตรงนั้นได้เลย ครูเลยรีบวิ่งหนีกลับบ้าน

ไม่ได้มีแค่เรื่องนี้ เพราะเคยมีเด็กนักเรียนที่มาโรงเรียนเช้า มานั่งรอเพื่อนในห้องก็จะมีเด็กนักเรียนผู้หญิงเดินเข้ามา แต่ไม่คุ้นหน้า แต่พอถามว่า ชื่ออะไรหรอ ทำไมมาเช้าจัง? เด็กนักเรียนหญิงคนนั้นไม่ตอบ แต่กลับร้องไห้และวิ่งออกไปตรงระเบียงแล้วก็กระโดดลงจากตึก!! เมื่อวิ่งตามไปดูกลับไม่เห็นร่างของเด็กนักเรียนหญิงคนนั้น เลยว่ากันว่าอาจจะเป็นวิญญาณของรุ่นพี่ที่คิดสั้น กระโดดตึกฆ่าตัวตายนั่นเอง

8.ผีเหรียญในโรงเรียน

ผีถ้วยแก้วถือเป็นกิจกรรมอันดับต้นๆของพวกที่อยากลองของ แต่ถ้าเพื่อนๆทุกคนได้ฟังเรื่องนี้แล้วอาจจะกลัวจนไม่กล้าเล่นกันอีกเลย เป็นเรื่องของห้องดนตรีไทยที่ถูกปิดตายในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่ว่ากันว่าถ้าใครเดินผ่าน หรือแอบไปส่องดูเป็นต้องเจอดีทุกคน ทำให้เด็กกลุ่มหนึ่งอยากลองของเลยไปเล่นผีเหรียญในห้องเรียนแห่งนี้ ตอนแรกก็คิดว่ามีใครคนใดคนหนึ่งเป็นคนผลักเหรียญ หลังๆความรู้สึกนั้นเริ่มไม่ใช่เพราะมีหนึ่งในเด็กนักเรียนที่ไปลองของลงไปนอนชักอยู่กับพื้น

กลุ่มนักเรียนที่เหลือจึงตะโกนเรียกเพื่อนที่รออยู่ข้างนอกให้เข้ามาช่วยแต่ก็ไม่ได้เสียงตอบรับจากคนข้างนอก แล้วจู่ๆ ลมก็พัดมาจากที่ไหนไม่รู้ ทำให้ประตูและหน้าต่างปิดจนส่งเสียงดัง ทุกคนจึงรีบวิ่งไปที่ประตูเพื่อที่จะเปิดแต่เปิดยังไงก็เปิดไม่ออก จึงพากันยกมือไหว้ขอขมา ขอโทษเจ้าที่เจ้าทางที่เข้ามาลบหลู่ ต่อมาประตูก็เปิดออกได้อย่างง่ายได้ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น..ส่วนเพื่อนนักเรียนที่รอยู่ข้างนอกต่างก็ตกใจและหวาดผวากับสิ่งที่เกิดขึ้น ว่าทำไมไม่เรียกให้เข้าไปช่วย ทั้งๆที่เพื่อนข้างในตะโกนกันแทบตาย แต่ข้างนอกได้ยินแต่เสียงหัวเราะ!!

9.เรื่องของตึก 2

เรื่องนี้เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธยมวัดพระศรีมหาธาตุ ที่มีตึกสุดหลอนที่เหล่าเด็กนักเรียนเล่าต่อๆกันมานั่นก็คือตึก 2 สุดหลอน โดยที่ตึกแห่งนี้ เมื่อก่อนมีลิฟท์ไว้ใช้สำหรับ ขึ้น-ลง ตึกแต่อยู่ๆก็เลิกใช้โดยไม่ทราบสาเหตุ แต่จริงๆทุกคนก็รู้อยู่แก่ใจว่าสาเหตุใดลิฟท์ตัวนี้จึงถูกปิดการใช้งาน เหตุเพราะเคยมีคนงานก่อสร้างตายขณะที่กำลังติดตั้งลิฟท์ หลายคนมักจะเจอเรื่องแปลกๆอยู่บ่อยครั้ง ทั้งเงาประหลาด เสียงกรีดร้อง และมือที่โผล่ออกมาให้เห็นกันจะๆ เรื่องของตึก 2 ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะมีเรื่องของห้องน้ำในตึก 2 ที่เมื่อถึงเวลาพลบค่ำ ใครก็ตามที่ไปเข้าไปใช้งานมักจะมีความรู้สึกแปลกๆ เหมือนมีใครสักคนเข้าห้องน้ำห้องข้างๆทั้งที่ในห้องน้ำนั้นไม่มีใครอยู่แม้แต่เพียงคนเดียว แถมยังเคยเห็นเงาคนรอต่อคิวเข้าห้องน้ำทั้งๆที่ออกมาก็ไม่พอเจอใคร อีกทั้งยังได้ยิน เสียงเปิด-ปิดประตู ทั้งๆที่ไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำ ทำเอาไม่มีใครอยากเดินผ่านหรือเข้ามาให้ห้องน้ำกันเลยทีเดียว

10.ใครในห้องสมุด

เป็นเรื่องราวของห้องสมุดแห่งในโรงเรียนชื่อดังที่ว่ากันว่ามีเรื่องหลอน ให้เอามาเล่ากันได้ทุกวัน คนที่เจอบ่อยสุดก็คงหนีไม่พ้นบรรณารักษ์ห้องสมุดที่จะเห็นเงาดำๆอยู่บริเวณมุมมืดของห้องสมุดอยู่บ่อยครั้ง แต่พอเดินไปดูกลับไม่พบใครนั่งอยู่ พอกลับมานั่งก็จะได้ยินเสียงคนคุยกัน เสียงวางหนังสือ ทั้งๆที่ในห้องนั้นไม่มีแม้แต่เด็กนักเรียนหรืออาจารย์ท่านใดอยู่เลยแม้แต่คนเดียว

บางครั้งตอนเช้าพอเปิดห้องสมุดมากลับมีรอยเท้าเดินของคนเดินทั่วห้องทั้งๆที่ก่อนจะปิดห้องก็ได้จัดการทำความสะอาดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกหนึ่งเรื่องก็คือเรื่องของบัตรยืมหนังสือของอดีตนักเรียนคนนึงซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้ว แต่กลับมีคนเห็นบัตรของนักเรียนคนนั้นไปตกอยู่ตรงมุมมืดที่ไม่ค่อยมีใครเข้าไป ทุกวันนี้ก็ยังมีคนเอาบัตร(ผี)ใบนี้มาคืนอยู่บ่อยๆ จนบรรณารักษ์หลอนกันไปหมด

เป็นยังไงกันมั่งละคะเพื่อนๆ กับเรื่องราวหลอนๆของผีแต่ละโรงเรียน หากถูกใจก็อย่าลืมกดติดตามและกดกระดิ่งช่อง eduHUB กันด้วยนะคะ

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก tlcthai.com/