
หากพูดถึงจักรวาล DC ทุกคนคงต้องนึกถึง ฮีโร่ อย่าง Superman Batman Wonder Woman และล่าสุด ฆาตกรโรคจิตอย่างโจ๊กเกอร์ แต่วันนี้พวกเรา EDU HUB จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ Rorschach ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวละคร ฮีโร่ ในจักรวาล DC แต่ Rorschach จะไปทางฮีโร่ทางด้านมืดและคนทั่วไปไม่ค่อยให้ความสนใจมากนัก
จริงๆแล้ว Rorschach (รอชาร์ต) มีชื่อจริงว่า Walter Kovacs ซึ่งแม่ของเขาเป็นหญิงโสเภนีที่โหดเหี้ยม และชอบทำร้ายร่างกายเขาอย่างโหดร้ายและทารุณ Walter ถูกส่งตัวไปเรียนที่โรงเรียนสำหรับเด็กมีปัญหาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ซึ่งตลอดระยะเวลาการเรียนนั้น Walter เป็นที่หนึ่งของชั้นในวิชาศาสนา, วิชาต่อยมวย และวิชากายกรรม โดยเขาได้เขียนผลงาน บทความสรรเสริญท่านประธานาธิบดี Harry S. Truman ที่ท่านได้ใช้อาวุธนิวเคลียถล่มญี่ปุ่น ในเมือง ฮิโรชิม่า และ นางาซากิ เพราะเขาคิดว่ามันเป็นการช่วยชีวิตคนด้วยการหยุดสงคราม

เมื่อเขาอายุ 16 ปี Walter ได้ข่าวว่าแม่ของเขาถูกฆ่าอย่างโหดร้าย และยังถูกบังคับให้กลืนขวดน้ำยาทำความสะอาดท่อจนเธอต้องตาย แต่แทนที่ลูกคนหนึ่งจะรู้สึกเสียใจจากการสูญเสียมารดาของเขา แต่ในเหตุการณ์นี้ Walter กลับเฉยชาและได้พูดออกมาว่า “ดี !” Walter หรือ รอชาร์ต ไม่ใช่ฮีโร่ แต่เป็นศาลเตี้ยที่คอยฆ่าคนทำชั่วมากกว่า ไม่มีกฎใด ที่จะมาควบคุมเขาได้ Rorschach ฆ่าวายร้ายทุกคนอย่างเลือดเย็น ซึ่งเขาจะมีบันทึกเป็นของตัวเองที่บรรยายความรู้สึกของเขาในแต่ละปี

สำหรับความสามารถของ รอชาร์ต มีมากมาย ซึ่งสามารถแยกได้ดังนี้คือ
- ความสามารถด้านการต่อสู้
- ความสามารถด้านการสืบสวน สอบสวน แต่จะแตกต่างจากตำรวจหรือนักกฎหมาย เพราะเขาด้วยวิธีการรุนแรงและ
- โหดร้ายกับเหยื่อเสมอ
- ความฉลาดหลักแหลมในการพลิกแพลง
- ความสามารถในการปลอมตัว
- และแน่นอน รอชาร์ตมีความตั้งใจแน่วแน่ ไม่ย่อท้อ ที่กำจัดคนชั่วในเมืองให้หมดไป
แต่ยังไงก็ตาม รอชาร์ต มีจุดอ่อนใหญ่ ๆ คือ ความป่วยทางจิตใจ ซึ่งเขามักจะทำตามสัญชาตญาณของเขาเอง และ ไม่ชอบร่วมมือกับใคร ชอบทำงานคนเดียว ไม่ชอบเข้าสังคม ซึ่งเขาจะแสดงอารมณ์ผ่านหน้ากากของเขา ที่มีของเหลวสีดำไหลวนสลับกับสีขาวคล้ายๆ กับรูปทรงอะไรบางอย่างนั่นเอง

สำหรับหน้ากากขอรอชาร์ตมีนักวิเคราะห์คิดว่ามันอาจจะมาจากเทคนิคทดสอบบุคลิกภาพจากการหยดน้ำหมึกของจิตแพทย์ที่ชื่อรอชาร์ตเช่นเดียวกัน ซึ่งรอชาร์ต คือจิตแพทย์ชาวสวิส มีชื่อเต็มว่า เฮอร์มานน์ รอร์สชาช (Hermann Rorschach) จิตแพทย์คนนี้เกิดที่ซูริกเมื่อปี 1884 ซึ่งเขาได้คิดค้นเทคนิคหยดหมึกInkblot Technique หรือเรียกเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้คิดค้นว่า Rorschach Technique ซึ่งถือเป็นแบบทดสอบบุคลิกภาพ Rorschach Test โดยนำเทคนิคนี้มาใช้ในการประกอบการวินิจฉัยโรคทางจิต เชื่อว่าได้รับแนวคิดมาจากบิดาของเขาซึ่งเป็นจิตรกร รอร์สชาช ได้เขียนตำราเทคนิคหยดหมึกไว้ โดยจัดเป็นตำราพื้นฐานให้นักจิตวิทยารุ่นหลังได้ศึกษา และพัฒนาเทคนิคให้สามารถทดสอบบุคลิกภาพได้อย่างละเอียดและแม่นยำมากขึ้น และยังนิยมใช้อยู่ในปัจจุบัน
วิธีใช้ทดสอบให้ดูภาพทีละภาพ โดยให้ดูอย่างละเอียดและบอกว่ามันเป็นภาพอะไร หรือภาพนั้นช่วยเตือนใจให้คิดถึงอะไร จะใช้เวลานานเท่าไหร่ก็ได้ หรือจะดูด้านไหนก็ได้ ไม่มีถูกผิด แต่ละคนจะเห็นไม่เหมือนกัน คำตอบจากลายน้ำหมึกแต่ละแผ่น จะถูกบันทึก รวมถึงกริยา หรือพฤติกรรมขณะตอบคำถาซึ่งทั้งหมดจะถูกนำไปสู่กระบวนการวิเคราะห์ อันจะเผยให้เห็นถึงอุปนิสัย สภาพจิตใจของผู้ถูกทดสอบ กรณีผู้ป่วยทางจิตจะสามารถรู้ว่าเจ็บป่วยระดับไหน สาเหตุมาจากอะไรเพื่อวางแผนในการรักษาต่อไปแบบทดสอบนี้อาจเป็นตัวช่วยเราให้ค้นพบตัวตนที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ ซึ่งก็คาดว่าตัวละครของรอชาร์ต จะได้แนวความคิดของการแสดงอารมณ์ผ่านทางหน้ากากของเขา เป็นของเหลวสีดำและสีขาว ที่มักจะไหลวนเป็นเป็นรูปร่างต่างๆ

ทั้งหมดนี้คือตัวละคร รอชาร์ต หนึ่งในตัวละครที่หลายๆคนหลงรักจากค่าย DC Comics เป็นตัวละครที่เท่มาก ๆ ซึ่งรู้จักมากขึ้นจากหนัง Watchmen และยิ่งถูกชื่นชอบมากขึ้นไปอีกเมื่อรู้ประวัติลึก ๆ ของตัวละครตัวนี้
Watchmen เริ่มเรื่อจากการที่เมื่อคอมเมเดี้ยน(Comedian) หนึ่งในฮีโร่ของขบวนการ Watchmen ถูกฆาตกรรมในที่พักของเขา ด้วยการถูกกระแทกตกลงมาจากตึก โดยผู้คนส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นการอาชญากรรมธรรมดาทั่วไป เพราะคอมเมเดี้ยนมีศัตรูมากมายจากนิสัยส่วนตัวของเขาเอง และอีกส่วนหนึ่งจากการที่ไปร่วมงานกับรัฐบาลด้านสงครามจึงอาจมีศัตรูตามปองร้าย และ รอร์ชาร์ต ผู้ที่มีทักษะด้านการสืบสวนสอบสวนจึงตั้งข้อสงสัย รอร์ชาร์ตไม่เชื่อเป็นว่าการตายของคอมเมเดี้ยนเป็นการฆ่าธรรมดา น่าจะเกี่ยวข้องกับนาฬิกาที่บอกถึงการสิ้นโลก จึงเริ่มกระบวนการตามสืบหาความจริงและค้นเจอความลับที่น่ากลัวกว่าที่คิด

อย่างไรก็ตามนักวิจารย์ภาพยนตร์ได้ให้ความเห็นเรื่อง Watchmen ว่ามีการสะท้อนความเป็นฮีโร่ของอเมริกา อ้างตัวเป็นตำรวจโลก และใช้เหตุผลในการสร้างสันติภาพเพื่อใช้กำลังทหารเข้าสู่สงคราม แต่เมื่อความจริงเปิดเผย จึงส่อแววให้เห็นว่าสังคมเมริกันเองก็มีปัญหาในประเทศเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความรุนแรง ปัญหาครอบครัว ปัญหาอาชญากรรม และปัญหาอื่นๆอีกมากมาย บางทีคนอเมริกันอาจจะต้องการให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาดูแลสังคมตัวเองก่อนเป็นอันดับแรกก่อนที่จะมุ่งไปแก้ปัญหาของประเทศ
อย่างไรก็ตามเหตุผลของสันติภาพอาจใช้เป็นข้ออ้างในเมื่อผู้บริหารประเทศของสหรัฐอเมริกามีผลประโยชน์มากมายจากธุรกิจที่ตามมาจากการเกิดสงครามนั่นเอง ถ้าสังเกตในเรื่องจะนี้มีฉากหลังของตึกแฝดเวิร์ดเทรดเซ็นเตอร์ให้เห็นอยู่บ่อยๆรวมทั้งตอนจบ ที่ค่อนข้างจะเน้นตึกแฝดนี้อย่างชัดเจน บางทีนี่เป็นสัญลักษณ์ของความสูญเสียที่ผู้รักษาสันติภาพของโลกมักจะพูดอยู่บ่อยๆว่า การจะหยุดยั้งสงครามและสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในโลกจำเป็นต้องสูญเสียบางอย่างซึ่งรวมถึงชีวิตคนบาง ส่วนแม้จะเป็นคนอเมริกันเองก็ตาม ตึกแฝดเวิร์ดเทรดที่เห็นใน Watchmen จึงเป็นสัญลักษณ์ของการเสียดสีชนชั้นผู้นำที่ให้เหตุผลจอมปลอมของการเสียสละเพื่อสิ่งที่ดีกว่าอย่างสงครามที่ไร้เหตุผลเสียไม่ได้นั่นเอง

หากเพื่อนๆคนไหนอยากเห็นตัวละครของรอชาร์ต สามารถไปดูได้ในหนังเรื่อง Watchmen ที่กำกับโดย Zack Snyder (เซค
สไนเดอร์) ถึงหนังเรื่องนี้จะได้คะแนนจากนักวิจารณ์ไม่ดีเท่าไร แต่แฟน ๆ ส่วนใหญ่พอได้กลับมาดูหนังเรื่องนี้ครั้ง จะบอกกันเป็นเสียงเดียว่าเป็นเสียงเดียวกันว่าสุดยอด เพราะหนังเรื่องนี้มันล้ำลึกกว่าที่สิ่งเห็น และเพื่อนๆก็จะชอบซุปเปอร์ฮีโร่เวอร์ชั่นนี้อย่างแน่นอน สุดท้ายนี้หากเพื่อนๆชอบเรื่องราวตื่นเต้นและน่าค้นหาในทั่วโลก ก็อย่าลืมกดติดตามและกดกระดิ่งช่อง eduHUB กันด้วยนะ