ว่ากันว่าผลกระทบจากดวงอาทิตย์ ที่มากกว่าพลังงานความร้อนที่ดวงอาทิตย์ส่งตรงมายังโลกของเรา ก็ยังมีพายุสุริยะ ที่สามารถสร้างความเสียหายให้กับโลกอย่างมหาศาล โลกคือหนึ่งในดาวเคราะห์ที่โคจรอยู่ภายใต้ระบบดาวฤกษ์เพียงดวงเดียว ซึ่งนั่นก็คือดวงอาทิตย์ โดยได้รับพลังงานหลายอย่างจากดวงอาทิตย์ ดังนั้นเมื่อใดก็ตาม ที่ดวงอาทิตย์เกิดพายุสุริยะ ผลกระทบนั้นย่อมเกิดต่อโลกเหมือนกัน
.
และโลกของเราในปัจจุบัน ไม่ได้มีเพียงแค่ชั้นบรรยากาศ ท้องฟ้าและผืนดินเท่านั้น แต่เรายังมีดาวเทียมนับหมื่นนับพันที่ยังมีโคจรอยู่รอบโลก และเมื่อใดก็ตามที่มีสิ่งแปลกปลอมทางอวกาศ ดาวเทียมคือด่านหน้าที่จะเจอกับปัญหาเหล่านั้น เหมือนเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2565 ที่ผ่านมา ที่ดันเกิดพายุสุริยะขึ้นและพลังงานเหล่านั้นส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่ดาวเทียมเป็นมูลค่ากว่าสามร้อยล้านบาท เรื่องราวเหล่านี้จะเป็นอย่างไร วันนี้พวกเราชาว eduHUB จะพาเพื่อนๆไปรับชมกัน แต่ก่อนจะไปรับฟังเรื่องราวสนุก ๆ ในวันนี้ ขอขอบคุณผู้สนับสนุนใจดี BEEclean แอปเรียกแม่บ้านสำหรับคุณ
.
เดิมทีนั้นพายุสุริยะเป็นหนึ่งในปรากฎการณ์ที่น่าเป็นห่วงจากห้วงอวกาศ เนื่องจากหากเกิดในปริมาณที่รุนแรง จะส่งผลกระทบให้กับโลกของเราอยู่หลายอย่าง การเกิดพายุสุริยะ เกิดขึ้นจากการที่พื้นผิวของดวงอาทิตย์มีการระเบิดทำให้ประจุไฟฟ้าต่าง ๆ พุ่งออกมา ส่งผลให้การส่งสัญญาณของระบบการสื่อสารต่าง ๆ ขาดช่วง ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ การติดต่อสื่อสารของโลกเราทั้งโลกจะหยุดชะงัก เครื่องบินจะไม่ได้รับสัญญาณ สัญญาณโทรศัพท์จะใช้งานไม่ได้ ปัจจุบันนั้นโลกได้มีการพยากรณ์การเกิดพายุสุริยะเหมือนกับพยากรณ์อากาศ โดยพยากรณ์จากการสังเกตที่จุดมืดของดวงอาทิตย์ เพราะในบริเวณที่มีจุดมืดนั้นมักจะเกิดความแปรปรวนของสนามแม่เหล็ก และก็จะทำให้เกิดการระเบิดและส่งประจุออกมาเป็นพายุสุริยะ
.
ในปี พ.ศ. 2565 นี้เองนั้นได้มีการพยากรณ์มาก่อนหน้านี้แล้วว่าอาจจะมีการเกิดพายุสุริยะในช่วงต้นปี แต่พายุสุริยะที่เกิดขึ้น มีความรุนแรงขนาดเล็กที่ไม่ส่งผลกระทบรุนแรงอะไรกับโลกมากนัก จนทำให้ชาวโลกนั้นวางใจและไม่ตื่นเต้นกับมัน แต่เมื่อถึงวันที่เกิดพายุสุริยะ มันกลับส่งผลกระทบให้กับโลกจากการสร้างความเสียหายให้กับดาวเทียม แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นนี้แตกต่างไปจากครั้งอื่น ๆ เพราะดาวเทียมที่ได้รับความเสียหายในครั้งนี้เป็นดาวเทียมใหม่ที่เพิ่งจะนำขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศของโลกได้เพียงแค่วันเดียว
.
เรื่องราวก็คือ ทาง SpaceX ได้ขนส่งดาวเทียมกว่า 40 ดวงขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศของโลก ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งโดยปกติทาง SpaceX จะเป็นผู้ขนส่งดาวเทียมขึ้นไปยังชั้นบรรยากาศเป็นงานประจำอยู่แล้ว และในทุก ๆ ครั้งเขาจะส่งดาวเทียมเหล่านั้นเอาไว้บนวงโคจรต่ำของโลก ในปัจจุบันมีมากกว่าพันดวงบนวงโคจรนี้ แต่ระหว่างทางในการลำเลียงดาวเทียมเหล่านี้ขึ้นไปนั้น จะมีการจอดพักเหล่าดาวเทียมที่ทำการขนส่งไว้ในระยะ 210 กิโลเมตรเหนือพื้นโลก เพื่อช่วยป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น เมื่อดาวเทียมขาดการติดต่อและไม่สามารถควบคุมได้
.
ดาวเทียมเหล่านั้นจะยังคงวางใจว่าจะไม่หลุดวงโคจรของโลกออกไปให้กลายเป็นขยะอวกาศ และไปสร้างความเสียหายให้กับดาวเทียมดวงอื่น แต่มันจะตกลงมาและเกิดเเรงเสียดสีจนเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศ โดยไม่ก่อให้เกิดความรุนแรงเมื่อถึงพื้นโลก ดังนั้นดาวเทียมกว่า 40 ดวงที่ทาง SpaceX ได้ส่งขึ้นไปก็จะอยู่ในวงโคจรต่ำของโลก
.
แต่เเล้วเรื่องราวที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เนื่องจากพายุสุริยะได้เกิดขึ้นในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 หลังจากที่ SpaceX พาดาวเทียมชุดใหม่ขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศได้เพียงแค่หนึ่งวัน ด้วยแรงของพายุสุริยะที่แม้จะไม่ได้อยู่ในระดับที่รุนแรงจนชาวโลกรู้สึก แต่มันก็ยังคงส่งสร้างปัญหาพอที่จะทำให้ดาวเทียมบนวงโคจรของโลกได้รับผลกระทบ ผลกระทบที่ว่านี้ คือพายุสุริยะรอบนี้ทำให้ชั้นบรรยากาศที่มีดาวเทียมดวงใหม่ทั้ง 40 ดวงซึ่งกำลังจอดอยู่นั้น มีอุณหภูมิที่อุ่นขึ้นและขยายตัวจนทำให้อากาศมีความหนาแน่นมากยิ่งขึ้น ซึ่งมันทำให้เกิดแรงต้านกับดาวเทียมเหล่านั้น
.
ทาง SpaceX จึงทำการควบคุมดาวเทียมทั้งหมดให้อยู่ในโหมดปลอดภัย และหันดาวเทียมตามทิศทางการเคลื่อนที่ จนทำให้ดาวเทียมเหล่านั้นเคลื่อนที่เร็วตามแรงที่กระทบจากพายุสุริยะ และด้วยแรงต้านที่แรงมาก ๆ ทำให้ไม่สามารถควบคุมให้ดาวเทียมเหล่านั้นอยู่ในโหมดปลอดภัยได้ จนทำให้ในตอนนี้แทบจะไม่สามารถควบคุมดาวเทียมเหล่านั้นได้ และเป็นไปได้ที่ตอนนี้ดาวเทียมเหล่านั้นอาจจะหลุดวงโคจรลงมาชั้นบรรยากาศของโลก ซึ่งจะทำให้เกิดแรงเสียดสีจนเผาไหม้ดาวเทียมเหล่านั้นทั้งหมด และถือว่าดาวเทียมเหล่านั้นจะได้รับความเสียหายอย่างสิ้นเชิง ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เริ่มปฏิบัติภารกิจใด ๆ เลย
.
มีนักวิเคราะห์ออกมาเปิดเผยความความเสียหายในครั้งนี้ โดยตีเป็นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาทเลยทีเดียว การเกิดเหตุการณ์นี้เอง ยิ่งตอกย้ำให้บริษัทใดก็ตามที่ต้องการนำดาวเทียมขึ้นไปยังวงโคจร ต้องมีวิธีป้องกันและรับมือจากการเกิดอันตรายรอบด้าน และความเสียหายในครั้งนี้อาจจะถูกนำไปพัฒนาให้เทคโนโลยีดาวเทียมในอนาคตมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
สำหรับเรื่องราวสนุก ๆ ในวันนี้ก็มีเพียงเท่านี้ แต่ก่อนจะจากกันไปในวันนี้หากคุณกำลังมองหาแม่บ้านทำความสะอาดอยู่ใช่ไหม ถ้าใช่ ต้องนี่เลย BEEclean แอปเรียกแม่บ้านสำหรับคุณ