ลูกบอลแม่มด ขยับเองได้อย่างปริศนา

เชื่อได้ว่าในวัยเด็กหลายคนต้องเคยผ่านการดูภาพยนตร์เรื่อง แฮรี่ พอตเตอร์ เรื่องราวของพ่อมดแม่มด ที่ดูเหมือนว่าจะมีอีกโลกซึ่งเป็นมิติที่เหล่าพ่อมดแม่มดนั้นดำเนินชีวิตคู่ขนานไปกับโลกเรา แต่ในชีวิตจริงนั้น พ่อมดแม่มดไม่ได้ถูกนับถือมากมายนักเหมือนกับในหลาย ๆ สื่อ เพราะในอดีตนั้นเคยมีประวัติของการล่าแม่มดมาก่อน หรือในประวัติศาสตร์เอง ก็จะมีบันทึกถึงการไล่จับผู้ที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นแม่มดด้วย ดังนั้นในชีวิตจริง หากมีแม่มดอยู่ ก็อาจจะมีตัวตนแบบแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ เพื่อความปลอดภัยของพวกเขาเอง

.

โดยเรื่องราวของแม่มดนั้น เป็นเรื่องราวของความเชื่อ ซึ่งเป็นความเชื่อที่คนโบราณสั่งสมกันมารุ่นสู่รุ่น ในปัจจุบันเรื่องราวเหล่านี้ได้จางหายไปตามกาลเวลา แต่ก็ยังไม่วายมีเรื่องลึกลับเกิดขึ้น เพราะจู่ ๆ ลูกบอลยักษ์ขนาดหนึ่งตัน ที่ตั้งไว้บนสุสานก็ขยับได้เอง บ้างก็เชื่อว่ามันเป็นวิทยาศาสตร์ และบ้างก็เชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือแม่มด เรื่องราวปริศนาที่ลูกบอลอันแสนหนักอึ้งที่ขยับได้เองลูกนี้จะเป็นอย่างไร วันนี้พวกเราชาว eduHUB จะพาเพื่อนๆไปรับชมกัน แต่ก่อนจะไปรับฟังเรื่องราวสนุก ๆ ในวันนี้ ขอขอบคุณผู้สนับสนุนใจดี BEEclean แอปเรียกแม่บ้านสำหรับคุณ

.

ในอดีตนั้น คนโบราณมักมีคำเรียกพวกหมอผี ว่าพ่อมดหรือแม่มด ซึ่งบุคคลเหล่านี้มีอยู่กระจายไปทั่วโลก และมีความเชื่อว่าปัจจุบันยังมีการสืบทอดความเป็นพ่อมดแม่มดมาสู่รุ่นลูกรุ่นหลานด้วย บางพวกนั้นจะมีการนับถือธรรมชาติ มีสัญลักษณ์ของพ่อมดแม่มดของเขาเอง มีพิธีกรรมตามความเชื่อ ในฝั่งยุโรปนั้นก็มีความเชื่อแตกออกเป็นสองฝั่ง คือบางคนที่เชื่อว่าพ่อมดแม่มดนั้นเป็นซาตาน เป็นภูติผีวิญญาณที่พาเรื่องร้าย ๆ เข้ามาในหมู่บ้าน แต่บางพวกก็เชื่อว่า พ่อมดแม่มดนั้นจริง ๆ แล้วเป็นเทพ มีลักษณะเป็นกึ่งคนกึ่งแพะจึงดูมีรูปร่างที่คล้ายกับซาตาน

.

หากจะเปรียบเทียบพ่อมดแม่มดกับประเทศไทยคงจะคล้าย ๆ กับเหล่าหมอผีหรือร่างทรงที่มีอิทธิพลทางไสยศาสตร์และเวทมนต์ต่าง ๆ ซึ่งก็จะมีทั้งผู้ที่หลงไหลและเชื่อในพลังของเหล่าพ่อมดแม่มด ในปัจจุบันเรื่องราวความเชื่อเหล่านั้นได้จางหายไปตามกาลเวลา เนื่องจากมนุษย์เข้าใกล้คำว่าวิทยาศาสตร์มากยิ่งขึ้น ดังนั้นความเชื่อโบราณบางอย่างที่ยังไม่สามารถสรุปได้ จึงไม่เป็นที่น่าเชื่อถือมากนัก

.

ถึงอย่างไรก็ตาม ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนที่ยังเชื่อเรื่องนี้อยู่เลย เพราะในล่าสุดได้มีการตั้งชื่อลูกบอลขนาดยักษ์ที่สุสาน ว่าลูกบอลเเม่มด เนื่องจากลูกบอลนั้นมีลักษณะประหลาดและสามารถเคลื่อนที่ได้ ลูกบอลเเม่มดเป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึงกันมาอย่างยาวนาน เกิดขึ้นที่สุสานฝังศพในเมืองเมมฟิส มิชิแกน สหรัฐอเมริกา โดยในสุสานแห่งนี้ ก็มีหลุมฝังศพของครอบครัวมิลเลอร์

.

ซึ่งลักษณะของหลุมศพดูจะแตกต่างจากหลุมศพของคนอื่นตรงที่ มีสัญลักษณ์เป็นฐานปูนและมีลูกบอลยักษ์ขนาดใหญ่ สีดำและหนักถึงหนึ่งตันวางอยู่ โดยฐานระบุชื่อครอบครัวว่า มิลเลอร์ ซึ่งมันถูกสร้างให้เป็นอนุสาวรีย์ให้กับ อิไล มิลเลอร์ ที่เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี ค.ศ. 1903 เรื่องที่น่าตื่นเต้นมันอยู่ที่ลูกบอลสีดำขนาดใหญ่ที่เชื่อว่าน่าจะทำมาจากหินนั้น แต่มีคนเล่าว่ามันสามารถขยับได้เองราวกับมีเวทมนต์ ชาวบ้านเเถวนั้นจึงต่างตั้งชื่อให้อนุสรณ์สถานนี้ว่า ลูกบอลเเม่มด

.

ด้วยความที่มันหนักถึง 1 ตัน ซึ่งในทางวิทยาศาสตร์ ถือว่าเป็นไปได้ยากมากที่มันจะต่อสู้กับแรงโน้มถ่วงของโลกแล้วขึ้นมาลอยและหมุนได้เอง แต่ก็มีบางคนตั้งข้อสังเกตว่าบางครั้งจะพบรอยวงกลมที่เป็นรอยที่ไม่ถูกเคลือบเงาเอาไว้ คาดการณ์ว่ารอยนั้น น่าจะเป็นบริเวณที่เคยอยู่ตรงฐานมาก่อน แต่วันดีคืนดี มันกลับมาอยู่ด้านบนแทน ซึ่งรอยวงกลมที่ไม่มีการเคลือบนั้นเอง เป็นสิ่งที่พวกเขาสังเกตกันได้ ว่ามันไม่ได้อยู่ในจุดเดิมตลอด

.

เมื่อวันเวลาผ่านไป มันจะหมุนจนไปอยู่ในจุดอื่นด้วย ชาวบ้านจึงเชื่อว่ามันขยับได้เองอย่างนี้อยู่ตลอด และไม่น่าจะเกิดจากฝีมือของคน เพราะว่ามนุษย์ไม่มีความศักยภาพมากพอที่จะยกวัตถุหนัก 1 ตันขึ้นมาได้เอง พวกเขาเชื่อว่า นี่มันคือความลึกลับและขนานนามมันว่าเวทมนต์ นอกจากเรื่องราวของการขยับของลูกบอลแม่มดนี้แล้ว ยังมีความเชื่อที่เล่าต่อ ๆ กันมาอีกว่า ลูกบอลนี้หากมองเข้าไป จะพบเงาที่สะท้อนกลับมาซึ่งไม่ใช่เงาของตัวเราเอง แต่เงานั้นจะเป็นเงาประหลาดรูปร่างคนอยู่ในนั้น และบางคนยังบอกว่า ตอนกลางคืนนั้นมักจะได้ยินเสียงประหลาดมาจากบริเวณนี้ด้วย เรื่องราวความลึกลับของลูกบอลแม่มดถูกเล่าต่อ ๆ กันมา ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีใครสามารถพิสูจน์และหาคำตอบในเรื่องต่าง ๆ นี้ได้

.

สำหรับเรื่องราวสนุก ๆ ในวันนี้ก็มีเพียงเท่านี้ แต่ก่อนจะจากกันไปในวันนี้ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลัก chatBEE แอปหาคนรู้ใจ ใกล้คุณ โหลดเลยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป