ยานInsight ตรวจพบแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในดาวอังคาร

เราอาจจะเคยดูแต่ในภาพยนตร์ที่มีความเกี่ยวข้องกับดาวอังคารถึงความรุนแรงของพายุหรือความรุนแรงของแผ่นดินไหวบนดาวอังคารที่ค่อนข้างจะรุนแรงมากๆและส่งผลให้ตัวละครในภาพยนตร์เกิดความยากลำบาก แต่ใครจะไปรู้ว่าสถานการณ์ที่แท้จริงของดาวอังคารนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าในภาพยนตร์ การันตีด้วยการตรวจพบการสั่นไหวของแผ่นดินบนดาวอังคารโดยยาน InSight ยานสำรวจโครงสร้างดาวอังคารของนาซา ที่พบว่าดาวอังคารเกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง รุนแรงถึง 4.2 แมกนิจูด และสั่นไหวต่อเนื่องเป็นชั่วโมงๆ
.

ซึ่งนับว่าเป็นการเกิดแผ่นดินไหวที่นานมากๆและน่าจะยาวนานที่สุดตั้งแต่ที่เคยมีการสำรวจมา เรื่องราวการตรวจพบแผ่นดินไหวของยาน InSight ในครั้งนี้จะเป็นอย่างไร วันนี้พวกเราชาว eduHUB จะพาเพื่อนๆไปรับชมกัน แต่ก่อนจะไปรับฟังเรื่องราวสนุกๆในวันนี้ ขอขอบคุณผู้สนับสนุนใจดี BEEclean แอปเรียกแม่บ้านสำหรับคุณ 
.

ยาน InSight  ของนาซาเป็นยานที่ทางนาซานั้นออกแบบมาเพื่อเอาใช้ในการสำรวจโครงสร้างของดาวอังคาร ซึ่งตัวยาน InSight เองนั้นได้ถึงส่งตัวขึ้นไปยังดาวอังคารตั้งแต่ปี ค.ศ. 2018 ซึ่งหลังจากที่ลงจอดบนดาวอังคารได้สำเร็จนั้นก็ได้ทำการบันทึกภาพและส่งสัญญาณมายังโลก ทำให้เราได้มองเห็นบริเวณพื้นผิวของดาวอังคารได้อย่างชัดเจนและกว้างขึ้นกว่าครั้งไหนๆ
.

ส่วนตัวยาน InSight นั้นได้ลงจอดในบริเวณที่มีชื่อว่า เอลิเซียม แพลนนิเทีย ซึ่งบริเวณนี้เองได้รับขนานนามว่าเป็นจุดลงจอดที่ใหญ่ที่สุดในดาวอังคาร และบริเวณนี้เองนั้นยังได้รับแสงอาทิตย์ซึ่งเพียงพอสำหรับการสร้างพลังงานผ่านแผงโซลาร์เซลของตัวยานซึ่งจะทำให้ยาน InSight  สามารถทำงานได้ต่อไปได้ เวลาล่วงเลยผ่านมาจนถึงปี ค.ศ. 2021 ถือว่าเป็นระยะเวลาเกือบ 3 ปีที่ทางยาน InSight ได้ปฏิบัติภารกิจบนดาวอังคาร
.

ซึ่งในระยะเวลาทั้ง 3 ปีนั้นยานได้ตรวจจับเจอแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 2019 มีความรุนแรง 3.7 แมกนิจูด จากนั้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็มีพายุบ้างหรือลมที่รุนแรงส่งผลให้ตัวยานนั้นปกคลุมไปด้วยฝุ่นเต็มไปหมด ซึ่งอย่างที่บอกไปว่าตัวยานนั้นได้รับพลังงานมาจากแผงโซลาร์เซล แต่เมื่อฝุ่นปกคลุมทั้งแผงจึงทำให้รับพลังงานยากและเหลือพลังงานสะสมน้อย
.

ด้วยความชาญฉลาดของผู้เชี่ยวชาญจึงออกแบบคำสั่งให้ตัวยาน InSight เองนั้นตักทรายหรือดินที่พื้นมาใส่แผงโซลาร์เซลที่มีฝุ่นปกคลุมอยู่หนาแน่น เพราะว่าบนดาวอังคารนั้นมีลมค่อนข้างแรงเป็นปกติอยู่แล้ว ลมจะช่วยพัดพาดินและทรายออกไปซึ่งมันก็จะพาฝุ่นออกไปด้วย ทำให้แผงโซลาร์เซลกลับมาใช้งานได้ดังเดิม ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างดีเยี่ยม หลังจากที่มีการพบแผ่นดินไหวเมื่อปี ค.ศ. 2019 ไป
.

ความนิ่งเงียบทำเอาละชะล่าใจ เพราะเมื่อหน้าหนาวเข้ามาเยือน ดาวอังคารอยู่ในช่วงที่อุณหภูมิลดต่ำลง ยาน InSight เองก็ต้องทำงานหนักเพราะระบบความร้อนที่ต้องคอยรักษาเครื่องยนตร์ไม่ให้เกิดความเสียหาย จู่ๆก็ได้ตรวจจับการสั่นไหวของแผ่นดินไหว ซึ่งพบทั้ง 2 บริเวณ และเป็นบริเวณที่ไกลกัน แต่เกิดขึ้นพร้อมกัน ยาน InSight ตรวจจับแผ่นดินไหวได้ 2 จุด ความรุนแรงอยู่ที่ 4.2 แมกนิจูดและ 4.1 แมกนิจูด ซึ่งรุนแรงกว่าครั้งที่พบเมื่อปี ค.ศ. 2019 ถึง 5 เท่า
.

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จากการเปรียบเทียบและการวิเคราะห์ต่างๆพบว่าน่าจะเป็นแผ่นดินไหวคนละประเภทกัน แผ่นดินไหวที่ 4.2 แมกนิจูด เป็นการสั่งไหวอย่างช้าๆ ความถี่ต่ำ เกิดในบริเวณที่ไกลจากยาน InSight ถึง 8,500 กิโลเมตร ส่วนแผ่นดินไหว 4.1  แมกนิจูด เป็นแผ่นดินไหวที่ค่อนข้างรุนแรง ความถี่สูง เกิดในบริเวณที่ห่างจากยาน InSight ประมาณ 925 กิโลเมตร แต่ความพิเศษของแผ่นดินไหวทั้ง 2 นี้คือ การเกิดในระยะเวลาเดียวกันแต่ละคนสถานที่ และเป็นสถานที่ที่ไกลจากกันมาก ซึ่งทางนักวิทยาศาสตร์เองก็ต้องทำการวิเคราะห์หาความเชื่อมโยงต่อไปว่าทำไมเเผ่นดินไหวทั้งสองที่นี้มันจึงเกิดขึ้นพร้อมกัน และดาวอังคารนั้นยังคงเป็นสถานที่ปลอดภัยเพื่อให้มนุษยชาติเรานั้นได้ย้ายไปตั้งถิ่นฐานได้หรือไม่ สำหรับเรื่องราวสนุกๆในวันนี้ก็มีเพียงเท่านี้ แต่ก่อนจะจากกันไปในวันนี้หากคุณกำลังมองหาแม่บ้านทำความสะอาดอยู่ใช่ไหม ถ้าใช่ ต้องนี่เลย BEEclean แอปเรียกแม่บ้านสำหรับคุณ