ช่วงนี้ใครๆก็ต่างพากันพูดถึงการลงทุนในเงินดิจิทัลหรือคริปโตเคอเรนซี่นั่นเอง นี่คือสกุลเงินแห่งอนาคตที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆในช่วงของวิกฤติการระบาดของโรคโควิด-19 และในเหรียญที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คงหนีไม่พ้น Bitcoin ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกภายใต้กระแสการลงทุนใน Bitcoin ที่กำลังมาแรงแล้ว
.
8อีกกระแสหนึ่งที่ควบคู่กันมาก็คือการการขุด Bitcoin วันนี้พวกเราชาว eduHUB จะพาเพื่อนๆไปพบกับข่าวการจับกุมชายในนิวยอร์ก และมีโทษจำคุกถึง 15 ปี เนื่องจากเขาถูกจับได้ว่าแอบติดตั้งเครื่องขุด Bitcoin ในสำนักงานของรัฐบาล แต่ก่อนที่จะไปรับฟังเรื่องราวสนุกๆในวันนี้ ขอขอบคุณผู้สนับสนุนใจดี BEEclean แอพเรียกแม่บ้านสำหรับคุณ
.
ใจกลางเมืองริเวอร์เฮด ในนิวยอร์ก มีชายคนหนึ่งถูกโทษจำคุกเป็นเวลา 15 ปี เนื่องจากเขาถูกจับได้ว่าเขาแอบติดตั้งเครื่องขุด Bitcoin รวมถึงเครื่องขุดเหรียญคริปโตเคอเรนซีอื่นๆกว่า 46 เครื่องภายในสำนักงานของรัฐบาล เพื่อนๆที่อาจจะสงสัยว่าการขุด Bitcoin คืออะไร คือการนำคอมพิวเตอร์บวกกับเครื่องขุดของเราเข้าไปช่วยถอดรหัสจากซอฟต์แวร์ในระบบของ Bitcoin
.
โดยจะต้องแข่งกันด้วยความเร็วในการประมวลใคร ใครสามารถประมวลผลได้เร็วกว่าก็จะเป็นผู้ชนะไปและได้ค่าตอบแทนเป็นเหรียญ Bitcoin มักจะเรียกว่าเป็นการทำเหมือง Bitcoin ปัจจุบันการทำเหมืองนิยมใช้การ์ดของคอมพิวเตอร์เพื่อการประมวลผลที่สูงเราคาไม่แพงและสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย
.
การขุด Bitcoin จะมีไปเรื่อยๆจนกว่าเหรียญของ Bitcoin จะหมด ซึ่ง Bitcoin ได้ทำการกำหนดเอาไว้ว่าจะมีเพียง 21 ล้านเหรียญเท่านั้น ในปัจจุบันมีการขุดเหรียญ Bitcoin ออกไปแล้ว 16.8 เหรียญ นับเป็น 80%ของจำนวนเหรียญทั้งหมดเลยก็ว่าได้ แปลว่าจะเหลือเหรียญ Bitcoin ให้ขุดอีก 4.2 ล้านเหรียญเท่านั้นหรือประมาณ 20 % เท่านั้น
.
สำหรับผู้ที่สนใจที่จะขุด Bitcoin จำเป็นที่จะต้องมีเงินทุน เพราะเราจะต้องซื้อเครื่องขุดหรือกราฟิกการ์ดจำนวนมาก และเมื่อเรามีเยอะเท่าไหร่ ยิ่งมีโอกาสที่เราจะประมวลผลและได้เหรียญเยอะมากขึ้นเท่านั้น และยังต้องเตรียมเงินทุนไว้สำหรับการจ่ายค่าไฟต่อเดือน เพราะการขุดนั้นต้องใช้พลังงานที่สูงมากจึงอาจจะทำให้ค่าไฟของเราสูงขึ้นไปอีก
.
ดังนั้นหากใครที่คิดจะทำการลงทุนในด้านนี้ควรคิดและศึกษาให้ละเอียดว่าคุ้มค่ากับการลงทุนไหม กลับมาที่ข่าวของเรา จากรายงานของ AP News ได้เปิดเผยข่าวเกี่ยวกับชายคนนึงที่ได้ทำการแอบติดตั้งเครื่องขุด Bitcoim ในสำนักงานของรัฐบาล
.
เขาก็คือชายที่ชื่อว่า คริสโตเฟอร์ เนเปิลส์ ในวัย 42 ปี เขาเป็นหัวหน้าฝ่ายปฎิบัติการ้านไอทีของสำนักงานเสมียนของเมืองริเวอร์เฮด เขาได้ทำการซ่อนและแอบติดตั้งเครื่องขุด Bitcoin และเหรียญคริปโตเคอเรนซี่อื่นๆกว่า 46 เครื่อง ภายใน 6 ห้องของสำนักงาน รวมถึงใต้แผ่นพื้น และ แผ่นผนังไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้ เพราะเขาทำงานอยู่ในสำนักงานนี้มากว่า 20 ปี ทำให้เขาชำนาญและรู้จักทุกซอกทุกมุมของสำนักงานเนเปิลส์ได้ถูกตั้งข้อหาทุจริตในที่สาธารณะ
.
การลักขโมยอย่างมหาศาล การบุกรุกทางคอมพิวเตอร์ และการกระทำมิชอบของทางการ หากเขาถูกตั้งสินว่ามีความผิดตามข้อกล่าวหาที่กล่าวมา เขาอาจจะต้องโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี นายเนเปิลส์ได้ยอมรับว่าเครื่องขุดทั้งหมดนั้นคือของเขา และเขาได้ใช้งานเครื่องขุดมาอย่างน้อยหลายเดือนก่อนที่สำนักงานอัยการเขตจะได้รับทราบเรื่องนี้เสียอีก
.
อัยการกล่าวว่าเครื่องขุดของนายเนเปิลส์อย่างน้อย 10 เครื่อฃได้ทำงานตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ทำให้มีค่าใช้จ่ายกว่า 6,000 ดอลลาร์ และมีการพบเครื่องขุดเพิ่มอีก 36 เครื่อง ทำให้มีแนวโน้มว่านายเนเปิลส์จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก ในระหว่างที่เขาแอบติดเครื่องขุด Bitcoin ทำให้พนักงานภายในสำนักงานบ่นเกี่ยวกับความเร็วของอินเทอร์เน็ตที่ช้าลงและเมื่อเครื่องขุดถูกพบและนำออกมา อุณหภูมิภายในห้องก็ลดลงมากกว่า 20 องศาฟาเรนไฮ
.
นี่คือหนึ่งในอาชญกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี่ ช่องว่างที่น่าดึงดูดสำหรับเหล่าอาชญากรคือการย้ายเงินทุนได้ด้วยความเร็วของอินเทอร์เน็ต แต่ในปัจจุบันอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี่ยังคงมีไม่มากนัก เพราะเครื่องมือและเทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถทำให้ผู้ตรวจสอบสามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้นเมื่อพบการกระทำที่ดูผิดปกติ สำหรับเรื่องราวสนุกๆในวันนี้ก็มีเพียงเท่านี้ แต่ก่อนจะจากกันไปในวันนี้ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลัก Chatbee แอพหาคนรู้ใจใกล้คุณ โหลดเลยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป