การเลือก Bitcoin Wallet ที่เหมาะกับคุณ

เพื่อนๆหลายคนคงรู้จักสกุลเงินดิจิตอลที่เป็นอันหนึ่งในตอนนี้อย่าง Bitcoin ที่ได้รับความสนใจและความนิยมเป็นอย่างมาก ณ เวลานี้ หากเพื่อนๆสนใจสามารถเข้าไปอ่านบทความของเราเกี่ยวกับ Bitcoin เพราะวันนี้เรื่องที่เราจะมานำเสนอเพื่อนๆคือ กระเป๋าเงินที่ใช้สำหรับเก็บ Bitcoin นั่นเอง
.

วันนี้พวกเราชาว eduHUB จะพาเพื่อนๆไปพบกับการเลือกกระเป๋าเงินของเพื่อนๆใช้สำหรับเก็บ Bitcoin แบบไหนที่เหมาะกับเพื่อนๆ พวกเราจะช่วยเพื่อนๆในการตัดสินใจเอง แต่ก่อนที่จะไปรับฟังเรื่องราวสนุกๆในวันนี้ ขอขอบคุณผู้สนับสนุนใจดี BEEclean แอพเรียกแม่บ้านสำหรับคุณ
.

อย่างที่เรารู้กันดีว่า Bitcoin คือสกุลเงินดิจิตอลที่สามารถแลกเปลี่ยนกันได้อย่างอิสระจากทั่วทุกมุมโลก คำถามก็คือเราจะใช้อะไรในการเก็บเหรียญ Bitcoin ของเรากันล่ะ ดังนั้นจึงมีโปรแกรมซอฟท์แวร์รูปแบบหนึ่งที่ชื่อว่า Bitcoin Wallet ที่ใช้สำหรับเก็บรวบรวม Bitcoin ไว้ เพื่อเป็นตัวกลางระหว่างผู้ใช้และระบบของ  Bitcoin
.

ความแปลกคือกระเป๋าเงินนี้มีลักษณะคล้ายธนาคารมากกว่าจะเป็นกระเป๋าเงินจริงๆ และถ้าหากไม่มีกระเป๋าเงิน Bitcoin นี้ เพื่อนๆก็จะไม่สามารถที่จะส่งหรือรับหรือชำระเงินด้วย Bitcoin งั้นเราจะเลือกกระเป๋าเงินแบบไหนที่ตอบโจทย์เรากันดี กระเป๋าเงินพวกนี้จะแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่กระเป๋าเงินเย็นและกระเป๋าเงินร้อน 
.

กระเป๋าเงินเย็น หรือ Cool storage คือ Wallet ที่อยู่นอกเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือเราจะเรียกง่ายๆว่าเป็นกระเป๋าเงินแบบออฟไลน์ โดยจะเก็บไว้นอกเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เช่น บนคอมพิวเตอร์ และ USB
.

ดังนั้นตัว Private Key จะอยู่กับเราเองไม่ได้เชื่อมโยงกับเคลือข่ายออนไลน์ จะช่วยลดความเสี่ยงในการถูกแฮคได้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากและต้องการความปลอดภัยและการรักษา Bitcoin ที่สูง แต่ข้อเสียของมันก็คือ ความยุ่งยากเมื่อคุณต้องการจะต่ออินเตอร์เน็ต  และความซับซ้อนก็ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่เราเลือกใช้
.

กระเป๋าเงินร้อน หรือ Hot Wallet เรียกง่ายๆว่าเป็นกระเป๋าเงินออนไลน์ จะเป็นกระเป๋าเงินที่คนอื่นควบคุม Private Key ไม่ใช่เรา ดังนั้นข้อดีของกระเป๋าเงินนี้คือเชื่อมต่อเคลือข่ายอินเตอร์เน็ตตลอดเวลา สะดวกในการโอนเงินในระบบอย่างรวดเร็ว และในกรณีที่กระเป๋าเงินแบบเดียวกัน ก็สามารถโอนได้โดยไม่ต้องผ่านตัว Blockchain
.

ข้อเสียของกระเป๋าร้อนนี้คือมันต้องพึ่งพาอินเตอร์เน็ต ถ้าผู้ควบคุมเครือข่ายไม่สามารถดูแลระบบได้ดี กระเป๋าเงินของคุณก็จะสุ่มเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมได้นั่นเองสรุปก็คือกระเป๋าเงิน Bitcoin ส่วนใหญ่ มี 2 ส่วนคือเก็บเอาไว้ใน กระเป๋าเงินเย็น และกระเป๋าเงินร้อน
.

ความแตกต่างก็คือ การเก็บเงินไว้ในกระเป๋าเงินร้อนจะสามารถทำธุรกรรมอย่างสะดวกและรวดเร็ว และ Private Key ยังอยู่บนเว็บบราวเซอร์ทำให้ไม่ต้องรอนานในการทำธุรกรรม ส่วนกระเป๋าเงินเย็นในการจะทำธุรกรรมนั้นจะต้องรอ เพราะ Private Key อยู่นอกเครือข่าย ทำให้การโอนเงินช้า
.

ดังนั้นตอนนี้มีหลายเจ้าในการให้บริการ เราจึงควรจะตรวจสอบว่ากระเป๋าเงินไหนที่เหมาะกับเราหรือความต้องการของเรา ในโลกของ Bitcoin นี้มีกระเป๋าเงินที่หลากหลายมากๆ แต่เราก็ไม่ควรที่จะมองข้ามเรื่องควมปลอดภัย เพราะทุกการลงทุนมีความเสี่ยง เราควรที่จะตรวจสอบก่อนที่จะเลือกนำเงินของเราไปใส่ไว้ในกระเป๋าเงิน สำหรับเรื่องราวสนุกๆในวันนี้ก็มีเพียงเท่านี้ แต่ก่อนจะจากกันไปในวันนี้ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลัก Chatbee แอพหาคนรู้ใจใกล้คุณ โหลดเลยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป