ตั้งแต่ที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 เรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อโรคต่างๆ ก็ดูจะไม่ใช่เรื่องไกลของเราอีกต่อไป ซึ่งการระบาดแต่ละครั้งก็อาจเกิดได้ทั้งจากเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย หรือแม้กระทั่งเชื้อรา วันนี้พวก eduHUB เลยอยากพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับเชื้อราชนิดนึงที่ได้ชื่อว่าเป็นเชื้อราที่อันตรายที่สุดในประวัติศาสตร์ จนได้ชื่อเล่นว่าเป็น “เชื้อราล้างโลก” กันเลยทีเดียว
.
เชื้อราที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่นี้ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงปีค.ศ.1970 ที่ชาวบ้านพบว่ากบและสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำทั้งหลายจู่ๆ ก็พากันล้มหายตายจากกันไปหมดอย่างไม่ทราบสาเหตุ ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจนกระทั่ง 10 ปีให้หลังที่เริ่มมีนักวิจัยเข้าไปศึกษาสาเหตุการหายตัวไปของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำเหล่านี้อย่างจริงจัง เพราะมีกบบางชนิดสูญพันธุ์ไปจากโลกแล้ว ซึ่งมันจะกระทบต่อระบบนิเวศน์และสัตว์ทั้งหลายที่อยู่ในห่วงโซ่อาหารแน่ๆ
.
แต่ท้ายที่สุดแล้วนักวิจัยเหล่านั้นก็ไม่พบเบาะแสอะไรเลย เพราะจากการตรวจสอบพบว่าสภาพแวดล้อมที่สัตว์เหล่านั้นอยู่ก็ไม่ได้เป็นพิษหรือเสียหายแต่อย่างใด อันที่จริงมันออกจะดูสมบูรณ์ดีด้วยซ้ำ ถ้าเช่นนั้นแล้วสัตว์เหล่านี้มันล้มหายตายจากไปได้ยังไงกัน?
.
เหล่านักวิจัยยังคงสืบหาเบาะแสกันไปเรื่อยๆ จนถึงปีค.ศ.1990 ที่พวกเขาได้เจอเชื้อราชนิดนึงบนผิวหนังของกบที่อยู่ในสาธารณรัฐปานามา ทางตอนใต้ของอเมริกากลาง โดยเชื้อรานี้มันจะฝังตัวลงไปในผิวหนังของเหยื่อก่อนจะกัดกินผิวหนัง ทำให้กบและสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่ใช้ผิวหนังในการหายใจ เกิดหายใจไม่ออกจนกระทั่งเสียชีวิตไปในที่สุด และเมื่อกบตายลง สปอร์ของเชื้อรานั้นก็จะลอยไปตามน้ำเพื่อไปติดยังกบตัวอื่นๆ ต่อไปเหมือนเชื้อโรคในหนังซอมบี้ไม่มีผิด
.
จากการศึกษาพบว่าเชื้อราชนิดนี้ทำให้กบและสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำติดกันกว่า 500 ชนิด และสูญพันธุ์ไปกว่า 90 ชนิด เรียกได้ว่าสูญพันธุ์กันไปเกือบ 1 ใน 5 กันเลยทีเดียว ด้วยความที่มันอันตรายและติดต่อกันได้ง่ายมากๆ เช่นนี้ทำให้มันได้ชื่อว่าเป็น “เชื้อราล้างโลก” (Doomsday fungus) หรือเชื้อราที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ส่วนชื่ออย่างเป็นทางการของมันคือ Batrachochytrium dendrobatidi นั่นเอง
.
ถึงแม้จะฟังดูน่ากลัว แต่เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึ้น สัตว์โลกก็ย่อมมีวิวัฒนาการในการสร้างภูมิคุ้มกันออกมาต้านทานเชื้อ ซึ่งล่าสุดก็มีการค้นพบกบที่มีภูมิคุ้มกันเชื้อราชนิดนี้ได้แล้วด้วย ดังนั้นในอนาคตกบสายพันธุ์อื่นๆ เองก็น่าจะพัฒนาภูมิคุ้มกันเชื้อราชนิดนี้ขึ้นมาก่อนจะส่งต่อยีนนี้ไปให้ลูกหลานเช่นกัน แล้ววันหนึ่งเชื้อราชนิดนี้ก็จะไม่ใช่เชื้อราที่น่ากลัวอีกต่อไป
.
แล้วเพื่อนๆ ล่ะคะมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง ถ้าหากเชื้อราชนิดนี้ไม่ได้ระบาดกันแค่ในกบแต่สามารถติดต่อมายังมนุษย์ได้คงจะน่ากลัวไม่ใช่น้อยเลยว่ามั้ยคะ และก่อนจากไปวันนี้ อย่าลืมกดไลก์และกดติดตามช่องยูทูป eduHUB ไว้ เพื่อจะได้ไม่พลาดคลิปใหม่ๆ ของพวกเราด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ สนับสนุนโดย BEEclean แอปเรียกแม่บ้าน สำหรับคุณ ดาวโหลดได้แล้ววันนี้ ทั้ง ios เเละ android