คงเป็นเรื่องที่ยังคาใจมนุษย์ทั่วโลกถึงเรื่องการข้ามเวลา แม้ว่าจะมีทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์มาอธิบายเรื่องเวลาแล้ว แต่มนุษย์เราก็ยังอยากรู้ว่า เราสามารถเดินทางข้ามเวลาได้จริงหรือไม่ เพราถ้าหากการเดินทางข้ามเวลานั้นเป็นไปได้ อาจทำให้เราสามารถลดระยะเวลาที่จะเดินทางไปสำรวจอวกาศได้อย่างมหาศาล
.
ซึ่งในตอนนี้ได้มีนักฟิสิกส์ชาวเยอรมันที่ได้ออกมาเปิดเผยถึงวิธีการเดินทางข้ามเวลาด้วยความเร็วเหนือแสงนี้ได้แล้ว เรื่องราวการเดินทางข้ามเวลานี้จะเป็นอย่างไร และมันสามารถเกิดขึ้นได้จริงมากน้อยแค่ไหน วันนี้พวกเรา eduHUB จะพาเพื่อนๆไปหาคำตอบกัน แต่ก่อนที่จะไปรับฟังเรื่องราวสนุกๆในวันนี้ ขอขอบคุณผู้สนับสนุนใจดี BEEclean แอปเรียกแม่บ้านสำหรับคุณ
.
นักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน จากมหาวิทยาลัยก็อททิงเจน ชื่อว่า ดร.อิริก เลนท์ซ ได้เปิดเผยถึงผลงานวิจัยล่าสุดที่ได้พูดถึงการคำนวณสมการสัมพทธภาพของไอน์สไตน์แบบใหม่ที่ทำให้เกิดฟองที่สามารถห่อหุ้มเครื่องยนต์ ซึ่งเคลื่อนที่ไวกว่าแสง จึงเป็นแนวคิดที่จะนำมาห่อหุ้มเครื่อยนต์ทางอวกาศเพื่อเดินทางไปปยังดาวต่างๆที่ต้องการจะสำรวจโดยใช้ระยะเวลาเพียงนิดเดียว
.
เมื่อก่อนนั้นการเดินทางข้ามเวลาแทบไม่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นเลย เพราะการเดินทางที่เร็วกว่าแสงนั้นอาจจะทำให้ผิดกฎธรรมชาติ ดังนั้นนักฟิสิกส์จึงคิดค้นหาวิธีที่จะแก้สมการสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ให้มันเกิดเป็นพลังงานที่หนาแน่นต่ำ ต่ำกว่าห้วงอวกาศ ซึ่งเขาใช้ชื่อว่า พลังงานลบ
.
มีการทดลองในห้องปฏิบัติการฟิสิกส์โดยพวกเขาสามารถแก้สมการและสร้างพลังงานลบจำลองนี้ขึ้นมาได้ แต่หากพลังงานลบนี้ยังมีมวลขนาดเล็ก ซึ่งยังไม่สามารถนำมาห่อหุ้มวัตถุขนาดใหญ่อย่างเช่น ยานอวกาศได้
.
แต่ถือว่าเป็นข่าวดี ที่เราทราบวิธีที่จะสร้างพลังงานที่ใช้ในการเดินทางข้ามเวลาได้แล้วแต่เพียงยังทำให้เกิดขึ้นจริงในการพาวัตถุที่ใหญ่เดินทางด้วยความเร็วเหนือแสงไม่ได้เท่านั้นเอง
.
หลังจากนั้น ดร.อิริก เลนท์ซ จึงได้ค้นคว้าต่อและพบอีกวิธีจากการคำนวณสมการเพื่อที่จะให้เกิดฟองโซลิตอน ที่มีความเร็วสูงมากๆ ซึ่งสามารถนำเอามาห่อหุ้มเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ได้ และฟองนี้สามารถคงสภาพของวัตถุนั้นได้เมื่อฟองได้เคลื่อนตัวพาวัตถุเดินทางด้วยความเร็วเหนือแสง
.
โดยฟองของโซลิตอนจะสามารถพายานอวกาศเดินทางไปยังเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว และนี่อาจจะเป็นการเดินทางข้ามจักรวาลโดยใช้ระยะเวลาเพียงน้อยนิด โดยจะขอยกตัวอย่างเพื่อเปรียบเทียบสำหรับการเดินทางโดยฟองของโซลิตอน และการเดินทางแบบธรรมดา เพื่อไปยังเป้าหมายที่ระบบดาวฤกษ์พรอกซิมา
.
หากเดินทางด้วยยานอวกาศที่ห่อหุ้มด้วยฟองของโซลิตอน จะใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 4 ปีเท่านั้น แต่ถ้าใช้ยานอวกาศที่เดินทางด้วยพลังงานนิวเคลียร์จะใช้ระยะเวลา 100 ปี ส่วนถ้าใช้เชื้อเพลิงเคมีปกติที่ใช้ๆกันในทุกวันนี้จะใช้ระยะเวลาถึง 50,000 ปี
.
เห็นไหมว่าการเดินทางไประบบดาวฤกษ์พรอกซิมานั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าหากไม่ใช้การเดินทางด้วยความเร็วเหนือแสงจากฟองของโซลิตอน การเดินทางโดยฟองของโซลิตอนที่ห่อหุ้มอยู่นั้นจึงเรียกว่า “วาร์ปไดรฟ์” ในอนาคตวาร์ปไดรฟ์จะเป็นอุปกรณ์ในการเดินทางข้ามเวลาที่มนุษย์จะนำมาใช้ในการผ่อนปรนระยะทางไปอวกาศ เพื่อลดระยะเวลาที่จะเกิดขึ้น และเราก็จะได้สำรวจดาวต่างๆได้เร็วขึ้น
.
แต่ข้อเสียของวาร์ปไดรฟ์นั่นก็คือ มันใช้พลังงานเยอะมากๆในการเดินทางด้วยความเร็วเหนือแสงจึงเป็นเรื่องที่จะต้องทำการวิจัยกันต่อถึงวิธีประหยัดพลังงานของวาร์ปไดรฟ์ โดยจะต้องทำให้วาร์ปไดรฟ์ใช้พลังงานน้อยกว่าเดิมลงมาถึง 30 เท่า จึงจะทำให้การเดินทางโดยวาร์ปไดรฟ์นั้นคุ้มทุนและมีประสิทธิภาพ
.
เอาเป็นว่าโลกของเราใกล้ความจริงแล้วที่จะได้เดินทางเร็วเหนือแสง ซึ่งเราอาจข้ามเวลาไปยังอนาคตได้เร็วกว่าเดิม แต่อย่างที่บอกไป วาร์ปไดรฟ์นั้น นักฟิสิกส์ทำมาเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีด้านอวกาศให้เรานั้นสามารถเดินทางไปยังอวกาศได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจะสร้างความก้าวหน้าทางอวกาศของโลกเราได้อย่างมากเลยทีเดียว สำหรับเรื่องราวๆสนุกเกี่ยวกับวาร์ปไดรฟ์ในวันนี้ก็มีเพียงเท่านี้ แต่ก่อนจะจากกันไปในวันนี้ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลัก Chatbee แอพหาคนรู้ใจใกล้คุณ โหลดเลยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป