
เพื่อนๆ ที่กำลังอ่านบทความกันอยู่นี้มีใครกลัวฟ้าผ่าบ้างมั้ยคะ “ฟ้าผ่า” เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากอิเล็กตรอนจำนวนมหาศาลที่วิ่งผ่านระหว่างเมฆกับพื้นโลก
.
ซึ่งระหว่างที่อิเล็กตรอนเหล่านั้นเคลื่อนที่ก็จะเกิดเป็นเสียงที่ดังกึกก้องพร้อมกับพลังงานมหาศาล ขนาดที่ว่าถ้าผ่ามาโดนเรา เราก็อาจจะตายได้ เพราะแบบนี้หลายคนจึงอาจจะกลัวฟ้าผ่า แค่เห็นแสงสว่างวาบหรือเสียงฟ้าร้องดังครืนขึ้นมาก็สะดุ้งโหยงกันแล้ว
.

โชคดีที่ปรากฏการณ์ฟ้าผ่าส่วนใหญ่มักกินเวลาไม่นาน พอไม่มีเมฆฝนฟ้าคะนองแล้ว ปรากฏการณ์นี้ก็จะหายไปด้วย แต่นั่นไม่ใช่กับสถานที่ที่เรากำลังจะพูดถึงต่อไปนี้ เพราะสถานที่ดังกล่าวมีฟ้าผ่าเกือบทุกวัน! เรียกได้ว่าถ้าคนกลัวฟ้าผ่าไปอยู่ที่นี่ล่ะก็ต้องช็อคตายแน่นอน แต่สถานที่แห่งนี้มันคือที่ไหน และทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้น เรามาหาคำตอบไปพร้อมๆ กันนะคะ
.
สถานที่ที่ได้ชื่อว่าเป็น “ดินแดนแห่งฟ้าผ่าชั่วนิรันดร์” อันที่จริงแล้วไม่ได้เกิดบนพื้นดิน แต่เป็นแม่น้ำจุดเชื่อมที่ต่อระหว่างทะเลสาบมาราไกโบ (Lake Maracaibo) กับแม่น้ำคาตาตัมโบ (Catatumbo) ประเทศเวเนซูเอล่า
.

ซึ่งถ้าหากเพื่อนๆ เอาชื่อแม่น้ำอันใดอันหนึ่งไปลองเซิร์สหาใน Google ก็จะมีภาพปรากฏการณ์ดังกล่าวโผล่ขึ้นมาให้เห็นอยู่บ้าง แต่อันที่จริงแล้วชื่ออย่างเป็นทางการของปรากฏการณ์นี้คือ “ปรากฏการณ์ฟ้าผ่าคาตาตัมโบ”(Catatumbo Lightning phenomenon) ที่ตั้งตามแม่น้ำคาตาตัมโบอย่างเดียวนะคะ
.
ตามสถิติแล้ว สถานที่แห่งนี้จะมีฟ้าผ่ามากถึง 140-160 วันต่อปี ซึ่งในแต่ละวันนั้นก็ไม่ได้มีฟ้าผ่าแค่ไม่กี่นาทีนะคะ แต่มีฟ้าผ่าต่อเนื่องยาวนานติดต่อกันเฉลี่ยถึง 10 ชั่วโมงเลยทีเดียว!
.

แล้วในแต่ละชั่วโมงย่อยๆ นั้นก็จะมีฟ้าผ่าอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 280 ครั้ง จนดูเหมือนสถานที่แห่งนี้มีฟ้าผ่าชั่วกัปชั่วกัลป์ ขนาดที่ว่านักเดินเรือสามารถใช้แสงจากฟ้าแลบฟ้าผ่าที่นี่แทนแสงจากประภาคารเวลาแล่นเรือตอนกลางคืนได้เลย เพราะแสงจากฟ้าผ่าที่เกิดขึ้นนี้สามารถมองเห็นได้จากที่ไกลๆ ในระยะมากถึง 400 กิโลเมตร
.
ส่วนสาเหตุที่สถานที่ดังกล่าวมีฟ้าผ่าต่อเนื่องไม่หยุดก็เกิดจากองค์ประกอบในแม่น้ำเองนั่นแหละค่ะ เนื่องจากพื้นที่ก้นแม่น้ำนี้มีลักษณะเป็นโคลนตมซึ่งอุดมไปด้วยสารอินทรีย์ที่ปล่อยก๊าซมีเทนออกมา
.

พอก๊าซเหล่านั้นระเหยขึ้นไปบนอากาศ มันก็จะไปก่อตัวเป็นเมฆ ยิ่งก๊าซมีเทนมันเบากว่าอากาศด้วยแล้ว ทำให้มันยิ่งลอยสูง ยิ่งไปเสียดกับลมร้อนที่พัดมาจากทะเลแคริบเบียน จึงเกิดเป็นปะจุไฟฟ้ามหาศาลจนเกิดฟ้าผ่าลงมาต่อเนื่องไม่หยุดในที่สุด
.
ถึงแม้จะฟังดูน่ากลัว แต่จริงๆ แล้วสถานที่แห่งนี้ก็ไม่ได้มีแต่ข้อเสียเพียงอย่างเดียวนะคะ เพราะเมื่อฟ้าผ่าลงมา พลังงานอันมหาศาลนั้นจะไปชนเข้ากับโมเลกุลของออกซิเจน ทำให้ออกซิเจนแตกตัวเป็นโอโซน (ozone) ทำให้ทะเลสาบแห่งนี้กลายเป็นแหล่งโอโซนธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของโลกด้วย
.

แต่ก่อนจะจากกันไป เราขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกนิดว่าถึงแม้โอโซนจะเป็นก๊าซที่มีประโยชน์มาก เพราะมันสามารถรวมตัวกับโมเลกุลอื่น ทำให้อากาศในบริเวณนั้นบริสุทธิ์ขึ้นมาได้ แถมยังสามารถนำไปใช้บำบัดน้ำเสีย หรือฆ่าเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี แต่ตัวโอโซนเองอันที่จริงมันเป็นก๊าซพิษนะคะ ดังนั้นห้ามสูดดมเข้าไปเด็ดขาด
.
โดยความเชื่อที่ว่าสูดโอโซนเข้าไปจะได้สดชื่นนี่ อันที่จริงแล้วเราไม่ได้สูดโอโซนเข้าไปตรงๆ แต่สูดอากาศบริสุทธิ์ที่ฆ่าเชื้อด้วยโอโซนต่างหาก เราจึงรู้สึกสดชื่น เพราะฉะนั้นทุกคนต้องระวังตัวกันไว้ด้วยนะคะ และก่อนจากไปวันนี้ อย่าลืมกดไลก์และกดติดตามช่องยูทูป eduHUB ไว้ เพื่อจะได้ไม่พลาดคลิปใหม่ๆ ของพวกเราด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
.
สนับสนุนโดย BEEclean แอปเรียกแม่บ้าน สำหรับคุณ ดาวโหลดได้แล้ววันนี้ ทั้ง ios เเละ android