ดวงตาแห่งซาฮารา

เพื่อนๆเชื่อไหมว่าในโลกของเราใบนี้ยังมีสิ่งมหัศจรรย์อีกมากมายที่เราหลายๆคนอาจจะยังไม่เคยพบ ไม่เคยสัมผัส และสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ล้วนเป็นสิ่งที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อยืนยันว่าโลกของเรานั้นยังคงสวยงาม
.

ดวงตาแห่งซาฮารายังคงเป็นหนึ่งสถานที่ ที่ใครหลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่ามันมีความสวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจซ่อนอยู่ ดวงตาแห่งซาฮารานั้นจะเป็นอย่างไร วันนี้พวกเรา eduHUB จะพาเพื่อนๆไปทำความรู้จักมันกัน แต่ก่อนจะไปรับฟังเรื่องราวสนุกๆในวันนี้ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลัก Chatbee แอพหาคนรู้ใจใกล้คุณ โหลดเลยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
.

ใครจะไปรู้ว่าในพื้นที่ทะเลทรายอันแห้งเเล้งและไกลโพ้น ในเนื้อที่มากถึง 9 ล้านตารางกิโลเมตร จะยังมีความความสวยงามจากความชุ่มชื้นและจากการไหลวนของน้ำที่แทรกซึมไปกับผืนทราย วันนี้เราจะพาเพื่อนๆทุกคนไปทำความรู้จักกับ ดวงตาสีฟ้าแห่งทะเลทรายซาฮารา หรือเรียกอีกอย่างว่า The blue eye of the Sahara
.

บริเวณดวงตาสีฟ้าแห่งซาฮารานี้เองนั้นเป็นพื้นที่กว้างใหญ่กว่า 40 กิโลเมตรที่น้อยคนนักมักจะพบเห็นความพิเศษของมัน เพราะหากเรามองลงมาจากภาพมุมสูง เราจะพบว่ามันมีลักษณะของทราย น้ำและผืนดินที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับดวงตาสีฟ้า
.

ซึ่งในบางครั้งเมื่อน้ำทะเลเปลี่ยนสีให้มีสีที่เข้มขึ้น ก็จะยิ่งมองเห็นเป็นรูปดวงตาอย่างชัดเจน แต่เมื่อใดก็ตามที่ไม่มีน้ำทะเลเข้าไปหรือน้ำทะเลมีลักษณะน้ำลง เราก็จะมองเห็นเป็นรอยพื้นดินที่นูนออกมาขดเป็นวงกลมเหมือนกับก้นหอย
.

บริเวณดวงตาสีฟ้าแห่งซาฮารานั้นไม่ได้เพิ่งจะมาเกิดปรากฎการณ์ในเร็วๆนี้ แต่มันเกิดขึ้นมาเเล้วกว่า 100 ล้านปีก่อน เมื่อก่อนนั้นยังไม่มีวิวัฒนาการหรือเทคโนโลยีที่จะทำให้เราสามารถมองโลกของเราจากมุมสูงได้ จึงทำให้ยังไม่มีใครได้มองภาพที่ชัดเจนออกว่าในบริเวณนี้มันมีลักษณะคล้ายกับดวงตา
.

จะมีก็เพียงแต่ชนเผ่านอแมดิกที่เป็นเผ่าที่อาศัยอยู่ตามทะเลทราย พวกเขาได้เข้าถึงพื้นที่เเห่งนี้ และรับรู้ว่าในพื้นที่แห่งนี้นั้นมีความนูนต่ำของพื้นผิวดิน และมีการแทรกซึมน้ำทะเลเข้าไปในระหว่างหุบเขา แต่พวกเขาก็ยังมองไม่ออกอยู่ดี ว่าถ้าหากมองเข้ามาจากนอกโลกแล้วมันจะมีลักษณะคล้ายกับดวงตา
.

จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1965 ยานอวกาศเจมินีได้เดินทางรอบโลกในวงโคจรของโลกและได้ถ่ายภาพลักษณะของโลกเป็นภาพรวมเอาไว้
.

เมื่อนักวิทยาศาสตร์ได้สังเกตเห็น พวกเขาก็ต่างตั้งข้อสงสัยว่าทำไมพื้นดินของโลกในบริเวณนี้มีลักษณะที่แปลกไปกว่าบริเวณอื่น จึงได้ทำการศึกษาค้นคว้าถึงข้อมูลทางธรนีวิทยาเพื่อหาสาเหตุของการเกิดดวงตาสีฟ้าแห่งซาฮารา
.

และก็พบว่าบริเวณพื้นที่ของดวงตาสีฟ้าแห่งซาฮารานั้นเกิดจากทวีปแพนเจียร์ที่มีลักษณะเป็นผืนแผ่นดินขนาดใหญ่เกิดการแยกตัวออกจากกัน ซึ่งส่งผลให้ลาวาภายใต้พื้นดินนั้นเกิดการประทุจนทำให้เปลือกโลกในบริเวณนั้นยกตัวขึ้น
.

เมื่อลาวาจากใต้ผิวดินไหลออกไปจนหมด แผ่นดินที่ยกตัวขึ้นก็จะเหลือช่องว่างซึ่งช่องว่างนั้นก็จะค่อยๆยุบตัวลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นร่องหลุมที่มีลักษณะเป็นวงกลมขนาดใหญ่ จนทำให้น้ำทะเลที่อยู่ในบริเวณโดยรอบไหลเข้ามาขังอยู่ที่หลุมนั้น ซึ่งทำให้เรามองเป็นเป็นดวงตาสีฟ้าเหมือนในปัจจุบัน 
.

ในปัจจุบันนี้ดวงตาสีฟ้าแห่งซาฮาราเป็นที่สร้างความสนใจให้กับผู้คนที่สนใจจะเข้าไปเยี่ยมชมเป็นอย่างมาก นอกเหนือไปจากผู้คนทั่วไปที่ให้ความสนใจกับมันแล้ว มันยังสร้างความสนใจให้กับนักธรณีวิทยาที่สนใจจะไปศึกษาโครงสร้างที่แปลกประหลาดนี้เพิ่มเติมไปอีก
.

โดยนักธรณีวิทยาบางท่านได้คาดการณ์เอาไว้ว่าในอนาคตนั้นกระแสลมที่เกิดขึ้นในทะเลทรายอาจพัดพาให้ทรายในทะเลทรายนั้นไปกลบบริเวณดวงตาแห่งซาฮารานี้ จนมันจะหายไปในที่สุด
.

เอาเป็นว่า ใครอยากจะไปชมก็คงต้องรีบไปแล้ว เพราะธรรมชาติในบริเวณนั้นมันสามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ไม่แน่ว่าในอนาคตนั้น เราอาจจะไม่เห็นดวงตาสีฟ้าแห่งซาฮาราในภาพถ่ายจากยานอวกาศได้อีก
.

สำหรับเรื่องราวสนุกๆในวันนี้ก็มีเพียงเท่านี้ ก่อนจากกันไป ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลัก Chatbee แอพหาคนรู้ใจใกล้คุณ โหลดเลยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป