สรุปเสาปริศนาโผล่ข้ามทวีปชั่วข้ามคืน

เป็นเรื่องฮือฮาช่วงข้ามคืนตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน ปี 2020 และฮือฮาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงเดือนธันวาคมในปีเดียวกันนั้นเอง เพราะว่าจู่ๆก็มีเสาโลหะปริศนารูปร่างแปลกประหลาดเสมือนว่ามาจากนอกโลกโผล่กลางทะเลทรายยูท่าห์ และตามด้วยที่ต่างๆอีกมากมาย
.

ซึ่งจุดที่แปลกของเรื่องราวนี้คือเสาปริศนามันเคลื่อนที่ได้เองข้ามทวีป ข้ามรัฐ เพียงชั่วข้ามคืน มันคืออะไรกันแน่ และเรื่องราวเหล่านี้มันเริ่มมาจากอะไร วันนี้พวกเรา eduHUB จะพาเพื่อนๆย้อนไปดูไทม์ไลน์ของที่ตั้งเสาปริศนาว่ามันเป็นมาเป็นไปยังไงบ้าง แต่ก่อนจะไปรับฟังเรื่องราวที่น่าสนใจ ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลัก Chatbee แอพหาคนรู้ใจใกล้คุณ โหลดเลยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป 
.

เรื่องราวของเสาปริศนานี้เริ่มต้นจากที่รัฐยูท่าห์ ในสหรัฐอเมริกา โดยการค้นพบเสาปริศนานี้เริ่มจากการที่เจ้าหน้าที่กองงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะกำลังเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์เพื่อไปสนับสนุนงานของเจ้าหน้าที่กองงานทรัพยากรสัตว์ป่า
.

พวกเขาได้มองเห็นเสาโลหะปริศนาที่มีความสูงประมาณ 3 เมตรกว่าๆ หรือประมาณคนสองคนยืนต่อกัน เสาปริศนานี้มีลักษณะเหมือนเเสตนเลสขนาดใหญ่ที่มีความมัน วาว เมื่อพวกเจ้าหน้าที่ได้สังเกตเห็นก็ได้ลงไปสำรวจเเละพบว่า มันเป็นเสาโลหะที่มีรูปทรงคล้ายปริซึม หรือสามเหลี่ยมโผล่ขึ้นมาจากดิน
.

ลักษณะดูไม่เหมือนว่ามันจะตกลงมาจากบนฟ้า แต่ดูเหมือนว่ามีคนจงใจวางมันลงไปในดินอย่างปราณีต ภายรอบเสานั้นไม่มีอะไรที่จะบ่งชี้ถึงการใช้งานหรือประโยชน์ของเสาสามเหลี่ยมต้นนี้เลย มันจึงไม่ใช่เสาส่งสัญญาณ หรือเสาที่ใช้เพื่องานอิเล็กทรอนิกส์แต่อย่างใด
.

หลังจากทีมเจ้าหน้าที่ได้พบเสาโลหะปริศนานี้และได้เผยแพร่รูปภาพอันน่าสงสัยไปยังทั่วโลก ต่างมีผู้ให้ความสนใจและต้องการเข้าไปชมเสานี้ด้วยตาตนเอง
.

แต่เนื่องจากบริเวณที่พบเสาแห่งนี้เป็นทะเลทรายในรัฐยูท่าห์ ที่ห่างไกล และอันตรายสำหรับใครที่จะเข้ามามือเปล่า จึงทำให้การเข้ามาเยี่ยมชมและมาดูเสาต้นนี้ ค่อนข้างที่จะลำบาก
.

ถึงอย่างไรก็ตามไม่ว่าจะลำบากเพียงไหนก็ยังมีคนพยายามเข้าไปชมมันให้เห็นกับตา และบางคนก็อยากจะไปพิสูจน์ว่ามันคืออะไรกันแน่ หลังจากที่ผู้คนเริ่มแห่แหนไปชมเสาปริศนานี้ที่ทะเลทรายยูท่าห์เพียงไม่กี่วัน ก็เกิดเรื่องราวประหลาดเกิดขึ้น
.

นั่นก็คือเสาปริศนาดังกล่าวได้หายไปชั่วข้ามคืน เหลือเพียงเศษก้อนหินที่วางซ้อนกันให้ดูต่างหน้า ทำให้ความลึกลับของเสาปริศนานี้ยิ่งเพิ่มสูงมากขึ้นไปอีก
.

เจ้าหน้าที่กองงานทรัพยากรสัตว์ป่าผู้ที่ค้นพบรีบแก้ตัวว่าพวกเขาไม่ได้เป็นคนย้ายไป แล้วเพื่อนๆส่งสัยไหมละคะว่าใครเป็นคนย้ายไป หรือมันย้ายไปไหน
.

แต่ปริศนาการหายไปของเสาโลหะนี้สร้างความสงสัยให้เราเพียงไม่ถึงวัน ก็มีหนุ่มนักผจญภัยได้โพสคลิปวิดีโอลงในสื่อโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับการที่เขานั้นรื้อถอนเสาโลหะและย้ายเสาโลหะดังกล่าวไปที่อื่น
.

เพราะให้เหตุผลในคลิปวิดีโอว่าเดิมทะเลทรายยูท่าห์เป็นทะเลทรายที่สวยงามตามธรรมชาติ เนื่องจากมนุษย์ไม่ค่อยเข้ามารุกล้ำ แต่เมื่อมีเสาปริศนานี้ขึ้นมา ทำให้ผู้คนต่างหลั่งไหลกันเข้ามาเพื่อที่จะชมเสาปริศนา แต่ผู้ที่เข้ามาเหล่านี้ไม่ได้รักษาความสะอาดและอาจจะรบกวนธรรมชาติ
.

นักผจญภัยจึงร่วมมือกับเพื่อนมาถอนต้นเสาปริศนานี้ออกในเวลากลางคืน แต่เรื่องราวของเสาโลหะปริศนายังไม่จบเพียงแค่นี้ เพราะเสาที่หายไปจากรัฐยูท่าห์ มันดันมาโผล่ที่เมืองเปียทรา เนียมส์ บริเวณตอนเหนือของโรมาเนีย 
.

หลังจากเหตุการณ์ที่เสาโลหะปริศนาได้หายไปจากทะเลทราย รัฐยูท่าห์ ก็มีเจ้าหน้าที่ทางฝั่งโรมาเนียแจ้งว่า พบเสาปริศนาดังกล่าวที่มีลักษณะและรูปร่างที่คล้ายคลึงกับเสาที่ยูท่าห์ ปรากฎอยู่ใน Batca Doamnei Hill
.

ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามเร่งสืบค้นข้อมูลว่าเสาชนิดนี้เป็นของใครและสร้างขึ้นมาเพื่ออะไร พวกเขาไม่ปักใจเชื่อเสียทีเดียวว่ามันจะเป็นเสาต้นเดียวกับที่ยูท่าห์ เพราะเพียงชั่วข้ามคืนเสาต้นนี้ไม่น่าจะที่สามารถข้ามน้ำข้ามทะเลมายังอีกทวีปได้
.

และอีกอย่างหนึ่งคือการหายไปของเสาที่ยูท่าห์ก็มีผู้มาเปิดเผยตัวแล้วว่าเป็นผู้รื้อถอนเสานั้นออกไป ดังนั้นการพบเสาปริศนานี้ที่โรมาเนีย เจ้าหน้าที่ที่โรมาเนียพยายามจะสรุปว่ามันน่าจะเป็นวัตถุศิลปะของศิลปินเก่าเเก่
.

ส่วนชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณนั้นแน่นอนว่า พวกเขาไม่สามารถคิดเป็นอื่นได้เลยนอกจากจะคิดว่าเสาต้นนี้อาจจะมาจากมนุษย์ต่างดาว 
.

สองวันถัดมาหลังจากการพบเสาปริศนาที่โรมาเนีย ก็ดันมีประชาชนรัฐแคลฟอร์เนียพบเห็นเสาปริศนาตั้งเด่นตระหง่านอยู่บนยอดเขาไพน์ เมืองอทาสคาเดโร รัฐแคลิฟอร์เนีย
.

เสาที่พบในรัฐแคลิฟอร์เนียมีลักษณะความสูงที่ไม่สูงเท่าที่พบในยูท่าห์และโรมาเนีย แต่การติดตั้งของเสาดูจะไม่มั่นคงเท่าไร มันมีความโคลงเคลงและเป็นไปได้ว่าถ้าหากโดนลมแรงๆจะถูกทำให้ล้มได้
.

สำหรับทั้ง 3 สถานที่ที่พบเสาปริศนานี้เมื่อเราสังเกตจากระยะทางและรูปร่างของเสาก็จะทำให้เรารู้ว่า เสาแต่ละต้นมีความแตกต่างกัน
.

เพราะเสาที่โรมาเนีย มีรอยการพ่นขดเป็นวงลวด ส่วนของที่เเคลิฟอร์เนียก็มีขนาดที่สั้นกว่าทั้งสองที่แรก และหากคำนวณระยะทาง ก็จะเห็นว่าแต่ละที่ที่เสาปริศนาไปโผล่ไม่ใช่ที่เดียวกัน และไม่ได้ใกล้กันแม้แต่นิดเดียว
.

อย่างไรก็ตามปริศนาเก่ายังไม่คลี่คลาย เสาปริศนาต้นที่สี่ก็ดันไปโผล่ที่เกาะทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษอีกแล้ว โดยมีผู้ไปพบเห็นเสาที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายเสาโลหะที่พบในยูท่าห์ โรมาเนีย และแคลิฟอร์เนียร์
.

โดยเสาที่พบในครั้งนี้พบอยู่บรเกาะไอส์ ออฟ ไวท์ อยู่บริเวณทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ ซึ่งมันก็ตั้งให้คนอังกฤษดูได้ไม่นาน มันก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย 
.

จนถึงวันที่เสาโลหะยังคงเป็นปริศนา ว่ามันคือเสาอะไรและสร้างขึ้นมาเพื่ออะไร และการที่เสาปริศนานี้หายไปจากที่หนึ่งและไปโผล่อีกที่หนึ่งนั้นมันคือปรากฎการณ์อะไรกันแน่
.

นักวิเคราะห์บางคนบอกว่ามันอาจจะเป็นเสาคนละต้น ที่ผู้สร้างแยกกันสร้างในแต่ละที่ โดยพวกเขาคิดในทางที่ดีว่ามันอาจจะเป็นผลงานทางศิลปะอย่างหนึ่งที่ผู้สร้างจงใจให้มันกลายเป็นปริศนาอย่างทุกวันนี้
.

แล้วเพื่อนๆละคะ คิดว่าเสาโลหะปริศนานี้สร้างขึ้นมาเพื่ออะไรกันแน่ ลองมาคอมเมนท์พูดคุยกันนะคะ สำหรับวันนี้ เรื่องราวของเสาโลหะปริศนาก็มีเพียงเท่านี้ ก่อนจะไปขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลัก Chatbee แอพหาคนรู้ใจใกล้คุณ โหลดเลยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป